รมว.สุริยะ ปลื้มแผนลงทุน เกรท วอลล์ เชื่อสร้างตลาดคึกคักหลัง

วันที่ 23 กันยายน 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังให้ นายจาง เจียหมิง ประธานกลุ่มบริษัท เกรท วอลล์ มอร์เตอร์ส ภูมิภาคอาเซียนและประเทศไทย เข้าพบว่า ได้มีการหารือ ถึงนโยบาย ส่งเสริมการผลิตและสิทธิประโยชน์ของรถยนต์ xEV หรือยานยนต์ ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า มาตรการกระตุ้น การใช้ยานยนต์ไฟฟ้า และมาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อสร้างอุปทาน การเตรียม ความพร้อมโครงสร้างพื้นฐาน การจัดทามาตรฐานยานยนต์ไฟฟ้า ตลอดจนการบริหารจัดการซากรถและแบตเตอรี่ใช้แล้ว โดยที่ผ่านมาสานักงาน เศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ได้มีการหารือร่วมกับหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน เกี่ยวกับการส่งเสริม ลงทุนเพิ่มเติมสาหรับกิจการผลิต xEVสำหรับแผนการลงทุนของเกรท วอลล์ฯ ในประเทศไทยน้ัน มีแผนการลงทุน อาทิ แผนการผลิตรถยนต์ ท่ีคาดว่าจะเริ่มปรับปรุงสายการผลิตเดิมในช่วงไตรมาส 4 ของปีน้ี โดยมีการนาระบบสมองกลเข้ามาใช้ภายในโรงงาน เพ่อรองรับการผลิตรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) และรถยนต์ไฟฟ้าทั้ง HEV PHEV และ BEV โดยมีกาลัง การผลิตรวม 8 หมื่นคันต่อปี การลงทุนติดต้ังเครื่องจักรและปรับสายการผลิตคาดว่าจะแล้วเสร็จตามแผนคือภายใน สิ้นปี 2563 น้ี และจะเร่ิมทาการผลิตรถยนต์รุ่นแรก SUV และรถกระบะออกวางจาหน่าย ในต้นปี 2564 ซึ่งคาดว่าจะ เกิดการลงทุนกว่า 2.26 หมื่นล้านบาท และเกิดการจ้างงาน 3,435 คน

นอกจากนี้ยังมีแผนการผลิตช้ินส่วนสาคัญต่างๆเช่นแผนการผลิตแบตเตอรี่โดยมีการผลิตโมดูล การ แพ็คแบตเตอรี่ การตรวจสอบคุณภาพ และมีแผนการผลิตชุดขับเคลื่อนไฟฟ้า เพื่อรองรับสมรรถนะการใช้พลังงาน และประหยัดของรถ HEV และ PHEV สาหรับแผนการใช้ชิ้นส่วนในประเทศปี 2564 คาดว่าจะมีการใช้ชิ้นส่วน ในประเทศร้อยละ 45 สาหรับรถยนต์รุ่นแรก ซึ่งมีการใช้ชิ้นส่วนหลากหลายประเภท และมีแผนการใช้ช้ินส่วน ภายในประเทศเป็นร้อยละ 90 ภายในปี 2568 และยังมีแผนการต้ังศูนย์วิจัยและพัฒนา ประกอบด้วย ศูนย์ออกแบบ และพัฒนา ศูนย์ตรวจสอบประสิทธิภาพการเช่ือมต่ออัจฉริยะ และศูนย์ฝึกอบรม โดยเป็นศูนย์วิจัยและพัฒนาท่ีรองรับ การวิจัยและพัฒนาในประเทศไทยและในภูมิภาคอาเซียน

“ปัจจุบันไทยมีศักยภาพในการผลิตรถยนต์ 2 ล้านคัน เป็นการผลิตเพื่อจาหน่ายในประเทศ 1 ล้านคัน และผลิตเพื่อส่งออก 1 ล้านคัน และเมื่อเกรท วอลล์ฯ แสดงเจตนารมณ์จะเข้ามาลงทุนที่ไทยและมีแผนที่ชัดเจนถือ เป็นเรื่องท่ีดีต่อตลาดมาก เพราะผู้บริโภคในประเทศจะมีทางเลือกที่หลากหลายมากขึ้น และประเทศไทยมีศักยภาพ ในการผลิตช้ินส่วนรองรับอย่างเพียงพอโดยมีมูลค่าการส่งออกสูงเทียบเท่ามูลค่าการส่งออกรถยนต์ และผู้ผลิตรถยนต์ ในปัจจุบันก็มีการใช้ช้ินส่วนในประเทศสูงกว่าร้อยละ 80 – ร้อยละ 90” นายสุริยะ กล่าว