ศบค.ชุดเล็กถกประเมิน หลังพบเชื้อแม้กักตัวแล้ว14วัน ‘หมออุดม’ขออดทน ต่อพ.ร.ก.อีกเดือน

“บิ๊กตู่” เรียกถก ศบค.ชุดเล็กประเมินสถานการณ์ หลังพบซากเชื้อจากการกักตัวหลัง 14 วัน ด้าน นพ.อุดม ยืนยันความจำเป็นพัฒนาวัคซีนโควิด 19 ร่วมกับม.อ็อกฟอร์ดเพื่อให้ได้สิทธิ์ทำวัคซีน ได้รับมาตรฐานโลกผลิต และจำหน่าย “ขอ”อดทนต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินอีก 1 เดือน

เมื่อวันที่ 20 ส.ค.ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เรียกประชุม ศบค. ชุดเล็ก อาทิ พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย. นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดสาธารณสุข นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร นพ. อุดม คชินทร ที่ปรึกษาศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์  รองผู้บัญชาการทหารบก (รอง ผบ.ทบ.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หารือข้อสนอของคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่มี พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ทั้งเรื่องการขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินออกไปอีก 1 เดือนเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกรณีการชุมนุมทางการเมือง การประเมินผลหลังผ่อนคลายมาตรการให้เปิดการทดลองเรียนเต็มรูป และ การอนุญาตให้มีผู้เข้าชมการแข่งขันกีฬาได้ตามที่กำหนด

ด้าน นพ.อุดม คชินทร ที่ปรึกษา ศบค. กล่าวก่อนเข้าร่วมการประชุม ถึงกรณีตรวจพบเชื้อโควิด-19 ในคนไทย 2 คน ว่า ซากเชื้อโควิด 19 ไม่แพร่ระบาด ซึ่งจากการยืนยันของกระทรวงสาธารณสุข ก็พบว่าทั้ง 2 คน ผ่านการกักกันตัวของรัฐ 14 วัน โดยไม่พบเชื้อก็ไม่มีปัญหา

ทั้งนี้ การพบซากเชื้อในไทย ก็มีการพบอยู่ประปราย ยืนยันว่า ซากเชื้อไม่ติดต่อ ขอให้ประชาชนสบายใจได้ อย่าตื่นตระหนก อีกทั้ง ตรวจพบเชื้อโควิด-19 ในคนไทย 2 คน ไม่ส่งผลต่อการพิจารณาผ่อนคลายมาตรการต่างๆ เนื่องจากไม่ใช่การระบาดระลอก 2 ที่ผ่านมาไทยไม่เคยลดมาตรการด้านสาธารณสุข และการพบซากเชื้อก็ไม่ใช่การแพร่ระบาดรอบ 2 และยังมั่นใจในมาตรการด้านสาธารณสุขของไทย ที่ดำเนินการมาอย่างเข้มงวด และ ประชาชนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีมาตลอด

สำหรับการประชุม ศบค.ชุดเล็กวันนี้ ก็จะมีการพิจารณาให้ผ่อนคลายมาตรการต่างๆเพิ่มเติม เช่นให้ประชาชนเปิดเข้าชมกีฬา หรือ คอนเสิร์ต ตามขนาดพื้นที่ เป็นต้น ส่วนการพัฒนาวัคซีนโควิด 19 ที่ยังไม่พิจารณางบประมาณ 600 ล้านบาท ร่วมกับมหาวิทยาลัยอ็อกฟอร์ด นั้น ตนเห็นว่าเรื่องนี้ต้องทำความเข้าใจว่า หากไทยดำเนินการเองต้องใช้เวลา อีกประมาณ 1 ปี ครึ่ง ซึ่งประเทศไทยมี บริษัท”สยามไบโอไซเอนซ์” ที่พร้อมผลิตได้ และเมื่อยกระดับความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยอ็อกฟอร์ด จะพัฒนาผลิตวัคซีน ได้ถึง 200 ล้านโดส เมื่อมีความร่วมมือ ก็จะเป็นบริษัทที่ได้รับมาตรฐานระดับโลก และสามารถจำหน่ายวัคซีนให้ต่างประเทศได้ ทั้งนี้ยืนยันว่าวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกัน โควิด 19 คือการผลิตวัคซีนมาป้องกัน

นพ.อุดม กล่าวยืนยันว่า ยังมีความจำเป็น ที่คงต้อง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในการป้องกันโควิด 19 ต่อไปเพราะเป็นกฎหมายตัวเดียวที่รวมหลายหน่วยงานไว้ โดยขออดทนอีก 1 เดือน