ศบค.ชุดเล็กนัดถกวันนี้เกณฑ์ “แทรเวล บับเบิล”ดีเดย์ 1 ก.ค. “3 แพคเกจ”กระตุ้นท่องเที่ยวไทย

วันที่ 17 มิถุนายน พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ “ศบค.ชุดเล็ก” นัดประชุมหารือถึงแนวทางการเปิดประเทศเพื่อการท่องเที่ยวอย่างจำกัด (Travel Bubble)

ทั้งนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งให้กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เตรียมความพร้อมเจรจาจับคู่ประเทศที่จัดการกับไวรัสโควิด-19 ได้ดีเยี่ยม จนสามารถเปิดให้คนเดินทางไปมาหาสู่กันโดยไม่ต้องถูกกักตัว หรือทราเวล บับเบิ้ล ซึ่งนายกฯให้ความสำคัญมาก

“ยืนยันว่ารัฐบาลพร้อมเจรจากับหลายประเทศที่มีความพร้อม หลังการระบาดของไวรัสคลี่คลายลงจนเปิดประเทศให้คนเดินทางท่องเที่ยวได้ นายกฯสั่งการมาโดยตรง ซึ่งรัฐบาลไทยพร้อมเจรจาระดับรัฐบาลกับประเทศและกลุ่มประเทศหรือเมืองที่พร้อมต้อนรับคนเดินทางไปเที่ยว ซึ่งเรื่องนี้จะทำทันที”นายพิพัฒน์กล่าว

ขณะที่ ครม.เมื่อวันที่ 16 มิถุนายนมีมติเห็นชอบหลักการมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวไทย 3 แพคเกจ ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงการคลังเสนอ

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ทั้ง 3 แพคเกจ ได้แก่ 1.กำลังใจ 2.เที่ยวปันสุข และ 3.เราไปเที่ยวกัน ระยะเวลาดำเนินการ 4 เดือน (กรกฎาคม-ตุลาคม 2563) ใช้บประมาณรวม 22,400 ล้านบาท หลังจากจากนี้ต้องเตรียมการทุกอย่างให้พร้อม เพื่อให้เดินทางได้ทันภายในวันที่ 1 กรกฎาคม

นายยุทธศักดิ์กล่าวว่า สำหรับรายละเอียด1.แพคเกจ”กำลังใจ” รัฐบาลจะสนับสนุนค่าเดินทางของอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) รวม 1.2 ล้านคน ให้ใช้บริการบริษัทนำเที่ยว ซึ่งรัฐจะสนับสนุนงบประมาณเดินทางไม่เกินคนละ 2,000 บาทต่อคน โดยเดินทางไม่น้อยกว่า 2 วัน 1 คืน เปิดให้ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ ใช้งบประมาณ 2,400 ล้านบาท

นายยุทธศักดิ์กล่าวว่า 2.แพคเกจ”เที่ยวปันสุข” รัฐบาลสนับสนุนการเดินทางของประชาชน ไม่น้อยกว่า 2 ล้านคน โดยจำหน่ายบัตรโดยสารของผู้ประกอบการขนส่งด้านการท่องเที่ยว 3 กลุ่ม ได้แก่ สายการบินในประเทศไทย รถขนส่งไม่ประจำทางข้ามจังหวัด และรถเช่า ในอัตรา 40% แต่ไม่เกิน 1,000 บาท ใช้งบประมาณ 2,000 ล้านบาท

นายยุทธศักดิ์กล่าวว่า 3.แพคเกจ”เราไปเที่ยวกัน” โดยรัฐบาลจะสนับสนุนค่าโรงแรมที่พักในลักษณะร่วมจ่าย จำนวน 5 ล้านห้อง-คืน ในอัตรา 40% ของค่าห้องพักแต่ไม่เกิน 3,000 บาทต่อคืน และสนับสนุนค่าอาหารและค่าใช้จ่ายสถานที่ท่องเที่ยวที่เข้าร่วมโครงการ 600 บาทต่อห้องต่อคืน แต่ต้องมีที่ตั้งอยู่ในจังหวัดอื่นที่ไม่ใช่จังหวัดในทะเบียนบ้านของผู้จองที่พัก ใช้งบประมาณ 18,000 ล้านบาท

“คาดว่ามาตรการกระตุ้นเที่ยวในประเทศ จะทำให้มีเม็ดเงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจทางตรง ประมาณ 4.5 หมื่นล้านบาท และทางอ้อม 2.5 หมื่นล้านบาท รวม 7 หมื่นล้านบาท จะช่วยให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้คือ รายได้ในภาคการท่องเที่ยวรวมอยู่ที่ 1.23 ล้านล้านบาท”นายยุทธศักดิ์กล่าว

---

พิเศษ! สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์, ศิลปวัฒนธรรม และเทคโนโลยีชาวบ้าน ลดราคาทันที 40% ตั้งแต่วันนี้ – 30 มิ.ย. 63 เท่านั้น! คลิกดูรายละเอียดที่นี่