“กรณ์” ยกประสบการณ์ พ.ร.ก.ไทยเข้มแข็ง แก้วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ เสนอ 4 กำแพงป้องทุจริต พ.ร.ก.เงินกู้

เมื่อวันที่ 26 พ.ค.นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า โพสต์คลิปวิดีโอ “4 กำแพงกั้นโกง” ถึงการพิจารณา พ.ร.ก.เงินกู้ 1 ล้านล้านบาทในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในวันพุธที่ 27 พ.ค. ว่า สภาฯ จะพิจารณา พ.ร.ก. เงินกู้ 1 ล้านล้าน ซึ่งเป็นการกู้เงินครั้งประวัติศาสตร์ ของประเทศไทย ทั้งในแง่จำนวนมูลค่า และความสำคัญในการนำมาใช้ดูแลคนไทยจากวิกฤตโรคระบาดที่ไม่มีใครคาดคิด ตนได้แสดงความเห็นชัดเจนแต่แรกว่า สนับสนุนการกู้ด้วยอำนาจพิเศษนี้ 600,000 ล้านบาท เพื่อเยียวยาประชาชนที่เดือดร้อนแสนสาหัสจากภัยโควิด แต่รัฐบาลได้แบ่งส่วนเงินกู้ไว้อีก 400,000 ล้านบาทเพื่อใช้ในโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจทั่วไป ซึ่งเป็นการใช้เงินที่มีกติกาการใช้เงินที่กว้าง และสุ่มเสี่ยงต่อการรั่วไหล เพราะการใช้อำนาจ พ.ร.ก. นั้นไม่มีสภาฯ กลั่นกรองความเหมาะสมของโครงการเหมือนการใช้เงินงบประมาณปกติ ผมเคยผ่านประสบการณ์การใช้เงินกู้ พ.ร.ก. มาก่อนในสมัยที่เราใช้ พ.ร.ก.ไทยเข้มแข็ง ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจในวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ เมื่อปี 2552-2553
นายกรณ์ กล่าวต่อว่า จากประสบการณ์นั้น จึงขอเสนอ 4 กำแพง เพื่อปกป้อง และป้องกันการใช้เงินภาษีประชาชนส่วนนี้ให้มีความคุ้มค่าที่สุด ลดโอกาสทุจริต ซึ่งจะเป็นภูมิคุ้มกันให้แก่รัฐบาลได้เอง หากมองว่าการป้องกันทุจริตคอร์รัปชั่นคือสิ่งสำคัญ โดย 4 กำแพง นี้คือ 1. รัฐบาลต้องให้ ‘ACT : องค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น’ ส่งตัวแทนอย่างน้อย 2 คน มาร่วมทำหน้าที่เป็นกรรมการกลั่นกรองโครงการ โดยให้กรรมการจากภาคีนี้มีอำนาจในการออกเสียงเท่ากับกับกรรมการสายราชการ ที่ปกติจะทำตามรัฐมนตรีที่มาจากการฝั่งการเมือง 2. กระทรวงการคลัง ควรทำ website เสนอข้อมูลต่อสาธารณะ โดยระบุรายละเอียดโครงการที่ทุกหน่วยราชการนำเสนอ และทุกโครงการที่ได้รับการพิจารณา รวมไปถึงรายชื่อผู้เสนอโครงการ ราคากลาง และราคาประมูลของผู้ประมูลทุกราย และรายละเอียดแผนการดำเนินงานของแต่ละโครงการ ซึ่ง 10 ปีที่แล้วผมเคยทำเอาไว้เป็นตัวอย่าง 3. รัฐบาลควรจัดงบประมาณเพื่อสนับสนุนการเปิดรับเบาะแสการทุจริตการใช้เงินกู้ พร้อมเงินรางวัล และ4. รัฐบาลควรต้องมีการรายงานผลการใช้งบทุกสามเดือน ชี้แจงผลการฟื้นฟูจากภัยโควิดทางเศรษฐกิจตามรายละเอียดในพ.ร.ก.ทุกโครงการที่ใช้เงินกู้

“ผมเชื่อว่า 4 กำแพง นี้ จะช่วยคุ้มกันรัฐบาลเอง และจะช่วยปกป้องเงินภาษีของประชาชนให้มีการใช้เงินอย่างมีประสิทธิภาพ และมีความโปร่งใส ประเทศไทยของเรามีวิกฤตโรคระบาดหนักมากพอแล้ว อย่าให้การคอร์รัปชั่นจากการใช้งบแบบพิเศษ เปิดช่องทุจริตจนเป็นวิกฤตการเมืองมาซ้ำเติม ซึ่งรัฐบาลทำได้ทันทีด้วยหลักของ 4กำแพง นี้” นายกรณ์ กล่าว