บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพ “โมเดอร์นา” ของสหรัฐออกมาเปิดเผยผลการวิจัยทางคลีนิก(clinical trial)ครั้งแรกของยาต้านไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่บริษัทผลิตขึ้น ในการทดลองกับกลุ่มอาสาสมัครตัวอย่าง ซึ่งได้ผลเป็นที่น่าพอใจ

ทั้งนี้บริษัทระบุว่า ยาต้านไวรัส mRNA-1273 ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันในกลุ่มอาสาสมัคร 8 คนที่ได้รับยา ในปริมาณเดียวกับที่พบในตัวผู้ป่วยที่ฟื้นตัวจากการติดไวรัสโคโรนาตามปกติ โดยผู้ได้รับยาปลอดภัยดี มีเพียงรอยแดงและปวดเล็กน้อยหลังได้รับยาเท่านั้น ขณะที่ผลการทดลองกับหนูแสดงให้เห็นว่าวัคซีนช่วยป้องกันไวรัสไม่ให้แบ่งตัวในเซลล์ปอดของหนูได้

“ข้อมูลดังกล่าวยืนยันความเชื่อของเราว่า mRNA-1273 มีศักยภาพที่ช่วยป้องกันโรคโควิด-19 และยังช่วยเพิ่มขีดความสามารถของเราในการเลือกโดสสำหรับการทดสอบสำคัญในขั้นต่อไป”ผู้บริหารบริษัทโมเดอร์นาระบุ ทั้งนี้ต้องมีการทดสอบทั้งหมด 3 ขั้นจึงจะยืนยันผลในการต้านไวรัสของยาที่ผลิตขึ้นมาได้

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ แสดงความยินดีต่อข่าวดังกล่าว และว่า “สิ่งที่พวกเขาทำถือเป็นเรื่องเหลือเชื่อ ผมได้เห็นผลการทดลองแล้ว มันดีทีเดียว ผมมีความสุขมาก ตลาดหุ้นก็ปรับเพิ่มขึ้นมากด้วย”

หลังข่าวความสำเร็จในการทดสอบเบื้องต้นเผยแพร่ออกไป ตลาดหุ้นของสหรัฐทั้ง 3 ตลาดหลักพากันปรับตัวขึ้นรับข่าวดี ขณะที่หุ้นของบริษัทโมเดอร์นาก็ปรับเพิ่มขึ้นถึง 19.69% มาปิดที่ 80 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น

ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์สดัชนีตลาดหุ้นสำคัญๆ ในเอเชียปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องอีกวันในการซื้อขายวันที่ 19 พฤษภาคมนี้ ตามหลังตลาดหุ้นวอลสตรีท ที่ปรับขึ้นหนักแน่นรองรับข่าววัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของบริษัทโมเดอร์นา ที่ได้ผลการทดลองในมนุษย์เฟสแรกในกลุ่มทดลองขนาดเล็ก (อ่านข่าว ความหวังพุ่ง! บริษัทยาสหรัฐเผยผลทดสอบวัคซีนต้านไวรัสโคโรนาเบื้องต้นเป็นบวก) ทำให้นักลงทุนพากันคาดหวังถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโดยรวมได้เร็วกว่าที่คาดหมายกันไว้ก่อนหน้านี้

ดัชนี เอ็มเอสซีไอ ของภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก ไม่รวมญี่ปุ่น ปรับเพิ่มขึ้น 1.8 เปอร์เซ็นต์ สู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ แม้ว่าโดยรวมในเดือนนี้แล้ว เอ็มเอสซีไอจะลดลง 1.9 เปอร์เซ็นต์แล้วก็ตาม

ดัชนีตลาดหุ้นออสเตรเลีย และ หั่งเส็งของฮ่องกง นำตลาดด้วยการปรับตัวสูงขึ้น 2 เปอร์เซ็นต์เท่ากัน เกาหลีใต้ปรับขึ้น 2.3 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ ขยับขึ้น 0.8 เปอร์เซ็นต์

ส่วนดัชนีนิกเกอิของญี่ปุ่นปรับขึ้นเกือบ 2 เปอร์เซ็นต์ สู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นมา

ราคาทองคำสปอตปรับลดลงจากระดับสูงสุดในรอบ 7 ปีเล็กน้อย มาอยู่ที่ 1,735.8486 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบชนิดเบรนท์ปรับลดลงเล็กน้อย 0.6 เปอร์เซ็นต์มาอยู่ที่ 34.62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบ ดับเบิลยูทีไอ ปรับขึ้น 2.6 เปอร์เซ็นต์มาอยู่ที่ 32.69 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล