โควิดเปลี่ยนชีวิตชาวปักกิ่ง รัฐบาลสั่งห้ามทำพฤติกรรม ‘ไม่ศิวิไลซ์’

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เมื่อวันที่ 26 เมษายน รัฐบาลกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของประเทศจีน ได้ออกกฎหมายห้ามประชาชนทำพฤติกรรมที่ไร้อารยธรรม หรือ ไม่ศิวิไลซ์ อย่างเช่น การไอหรือจามโดยไม่ปิดปากและจมูก ซึ่งถือเป็นแนวทางปฏิบัติรูปแบบใหม่ในการยกระดับด้านสุขลักษณะของประชาชนท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรโนา

ข่าวระบุว่า กฎหมายดังกล่าวมีขึ้นเพื่อต้องการส่งเสริมให้ประชาชนมีพฤติกรรมที่มีอารยธรรม และเกี่ยวเนื่องกับการต่อสู้กับการระบาดของโควิด-19 ที่เฉพาะในจีนมีผู้ป่วยมากถึงกว่า 82,000 ราย โดยเว้บไซต์ของรัฐบาลปักกิ่ง ระบุว่า ผู้ที่ฝ่าฝืนจะต้องถูกปรับ อย่างเช่น การไม่ใส่หน้ากากอนามัยในที่สาธารณะเมื่อมีอาการป่วย

นอกจากนี้กฎหมายยังกำหนดให้พื้นที่สาธารณะต่างๆ จัดทำจุดระยะห่าง 1 เมตรเอาไว้ และต้องจัดหาตะเกียบและช้อนกลางเมื่อมีการกินอาหารร่วมกันเอาไว้ และทุกคนจะต้องสวมเสื้อผ้า ห้ามถลกเสื้อในที่สาธารณะ ซึ่งเรียกกันว่า “ปักกิ่ง บิกินี” ที่ชาวจีนมักจะชอบม้วนเสื้อของตัวเองขึ้นมาเหนือพุง เพื่อคลายความร้อน
ด้านโกลบอล ไทม์ส รายงานว่า กฎดังกล่าวเป็นคำสั่งห้ามกระทำในที่สาธารณะทั้งหมด

ทั้งนี้ กฎหมายดังกล่าวเพิ่งจะผ่านความเห็นชอบเมื่อวันที่ 24 เมษายน และได้มีการเพิ่มการลงโทษเอาไว้ เช่น การทิ้งขยะไม่เป็นที่เป็นทาง การถุยน้ำลาย และการถ่ายอุจจาระในที่สาธารณะ จะถูกปรับเป็นเงินไม่เกิน 200 หยวน หรือราว 900 บาท จากเดิมที่ปรับเป็นเงินเพียง 50 หยวน หรือราว 230 บาท