“หมอมิ้ง”แนะรัฐบาลระวังเกาไม่ถูกที่คัน ชี้น่าสังเกตตัวเลขไม่เกี่ยวข้องเชื่อมโยงCurfew

4เมษายน 2563 นายแพทย์ พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร โพสต์เฟซบุ๊ก Prommin Lertsuridej ให้คำแนะนำและเตือนถึงมาตรการการจัดการของรัฐบาลในขณะนี้ว่า

รัฐบาลอย่าตระหนก เกินตระหนัก ระวังเกาไม่ถูกที่คัน

วันนี้ รัฐบาลแถลงจำนวนผู้ป่วย COVID19 รายใหม่เพิ่มขึ้น 89 ราย ถือเป็นการแสดงแนวโน้มที่ดี เพราะอัตราการเพิ่มของผู้ป่วยลดลงอย่างต่อเนื่องดังการวิเคราะห์ เมื่อวันวานนี้ (วันที่ 3 เมษายน) ของ รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และรศ.ดร.พญ.ภัทรวัณย์ วรธนารัตน์ จาก คณะแพทย์ศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ว่าอัตราการเพิ่มรายใหม่ ลดลงจาก 33% เป็น 25% เป็น 15 % มุ่ง 10% (ถ้ารายใหม่ เท่ากับ 90 ราย) ใน 3 สัปดาห์ วันนี้ 89 ราย ถ้า แนวโน้ม ระดับ ต่ำกว่า 100 ราย ติดต่อกัน 3 วันยิ่งน่าเชื่อได้ว่า อัตราการเจ็บป่วย กับการบริการทางการแพทย์ที่ให้บริการอยู่พอรับมือได้

แต่ที่น่าสังเกตคือ การลดลงของการติดเชื้อดังกล่าวนี้ มิได้เกี่ยวข้องเชื่อมโยงใดๆกับ มาตราการ Curfew ที่รัฐบาลประกาศมีผลใช้เมื่อคืน 3 เมษายนนี้เลย

แม้ขณะนี้ประชาชนและผม พยายามหาคำอธิบายแทนก็ไม่ชัด นอกจากให้ทหารและตำรวจได้มีบทบาทชัดเจนมากขึ้น ในขณะเดียวกันกลับเห็นว่ามาตรการการปิดกั้นช่องทางเข้าใหม่จากต่างประเทศ ของโรคกลับมีช่องโหว่ คือการที่มีชาวไทย 166 คน ที่กลับมาจากต่างประเทศไม่ถูกกักตัว ดังที่ประกาศไว้ https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_3884892 และ https://www.khaosod.co.th/covid-19/news_3882555 ร้อนถึงนายกฯต้องเรียกประชุมด่วน สั่งให้เจ้าหน้าที่ไปตามตัวกลับมาให้กักตัว และยังจะมีตามมาเรื่อยๆ

แถมก่อนหน้านี้ โฆษกรัฐบาลยังขู่ Curfew 24 ชม. https://workpointnews.com/2020/04/03/spokesman-gov/

การใช้มาตรการใดๆ ต้องมีเหตุผล และหลักปฏิบัติชัดเจน ไม่ใช่ใช้มาตรการหนึ่ง ไปสร้างปัญหาใหม่ เช่นประกาศ Shut down กรุงเทพ เลยเร่งให้คนกลับไปต่างจังหวัด โดยมีมาตรการรองรับไม่พร้อม โชคยังดี ที่ระบบสาธารณสุข ถึงหมู่บ้านเราเข้มแข็งพอควบคุมจำกัดการแพร่กระจายโรคได้ดี ตอนนี้ เข้มงวดกับคนไทยกลับบ้าน มาถึงเจอปัญหาเดิม ซ้ำรอยกรณีกักตัว ผีน้อย ข้อบกพร่องเหล่านี้ จึงชี้ให้เห็นว่ามาตรการที่ออกมาบางอย่าง “อาจเกาไม่ถูกที่คัน”

ที่สำคัญ”การ shut down เท่ากับหยุดการผลิต หยุดการทำมาหากิน หยุดเศรษฐกิจ “ การหยุดจึงต้องสั้นเท่าที่จำเป็น เพื่อดำเนินการควบคุมโรค ไม่ใช่ขู่ curfew 24 ชม. ยืดการ shut down เพราะว่าการเกิดโรครายใหม่ ยังไม่หมด ทั้งที่จริงมันกำลังลดลง

ขอให้กำลังใจให้นักรบเสื้อขาว ที่อยู่แนวหน้า ขอให้กำลังใจแก่ประชาชนให้ผ่านพ้น วิกฤตนี้ด้วยกันโดยเร็ว ขอให้รัฐบาลดำเนินการอย่างรอบคอบ เร่งคืนสันติสุขให้ประชาชนโดยเร็ว อย่าให้ภาวะเศรษฐกิจถดถอยไปกว่านี้ เลือกมาตรการที่แม่นยำฟื้นเศรษฐกิจให้ได้จริง

Credit ภาพจาก Facebook รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และรศ.ดร.พญ.ภัทรวัณย์ วรธนารัตน์ จาก คณะแพทย์ศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี