“อนุทิน” รับของจากเอกชน ขอให้มั่นใจว่ากระจายเป็นธรรม เยี่ยม รพ.พระนั่งเกล้า ตรวจสอบบริหารทรัพยากร

“อนุทิน” รับของจากเอกชน ขอให้มั่นใจว่ากระจายเป็นธรรม พร้อมลงเยี่ยม รพ.พระนั่งเกล้า ตรวจสอบการบริหารทรัพยากร
เมื่อวันที่ 2 เมษายน ที่ กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) รับมอบผลิตภัณฑ์ จากกลุ่ม บริษัท ยูนิลีเวอร์ จำกัดจำนวนมากกว่า 1 ล้านชิ้น ประกอบด้วย เจลแอลกอฮอล์ล้างมือวาสลีน จำนวน 100,000 ชิ้น ผลิตภัณฑ์ซักผ้าคอมฟอร์ทและเซเว่นท์เจนเนอเรชั่น จำนวน 200,000 ชิ้น และ คนอร์คัพโจ๊กและพาสต้าอีก 70,000 ชิ้น พร้อมกันนี้ยังรับมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ จากบริษัทไชน่า ไทยทัวร์ ประกอบด้วย หน้ากากอนามัย(Surgical Mask) จำนวน 20,000 ชิ้น ถุงมือทางการแพทย์จำนวน 30,000 ชิ้น และ ชุดตรวจอุณหภูมิแบบดิจิตอลจำนวน 20 เครื่อง ภาคเอกชนมีความตั้งใจที่จะช่วยเหลือบุคคลกรทางการแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั่วประเทศไทย ที่เป็นด่านหน้าคอยรับมือและต่อสู้กับไวรัสโคโรนา 2019   (โควิด-19)

นายอนุทิน  กล่าวว่า ในนามตัวแทนของรัฐบาล นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สธ ขอขอบคุณภาคเอกชนทุกฝ่ายที่ได้มีจิตศรัทธานำเวชภัณฑ์ที่มีคุณค่าและมีความหมายกับบุคลากรทางการแพทย์ไปจนถึงเป็นประโยชน์กับผู้ป่วย เวชภัณฑ์ที่นำมามอบให้นี้เป็นสิ่งที่โรงพยาบาล(รพ.) แพทย์ ผู้ป่วย ต้องการเป็นอย่างมาก

ทั้งนี้ นายอนุทิน กล่าวว่า ของที่ได้รับบริจาคมานั้นไม่มีการนำไปรวมกับที่มีสำรองจากส่วนกลาง ส่วนบริจาคจะแยกออกมาเป็นอีกส่วนหนึ่ง ก่อนนำบริจาคของทุกอย่างมีคณะกรรมการตรวจสอบอย่างโปร่งใส่ เพื่อกระจายทั่วประเทศไทย ของทุกอย่างจะถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างรวดเร็วและชัดเจน พร้อมทั้งตั้งใจว่าจะให้มีการบันทึกว่าของบริจาคเหล่านั้นไปอยู่ที่ไหน เพื่อทำการสรุปและส่งข้อมูลกลับไปยังผู้บริจาค ว่ามีการส่งถึงเป้าหมายอย่างไร เพื่อให้เกิดความสบายใจ เรื่องการจัดสรรเวชภัณฑ์ทาง นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัด สธ.และอธิบดีกรมต่างๆ มีการบริหารจัดการอยู่แล้ว ซึ่งจะมีการประชุมร่วมกับส่วนกลาง ผู้ตรวจราชการทั้ง 12 เขต ซึ่งจะนำความต้องการ ข้อตกลง คำขอจากหน่วยบริการต่างๆในพื้นที่ นำมาหารือในที่ประชุมทุกเช้า
“ของพวกนี้เราต้องมั่นใจว่า จัดสรรทุกอย่าง อย่างเป็นธรรมและตามความจำเป็นของแต่ละพื้นที่” นายอนุทิน กล่าวและว่า ในวันนี้จะมีการลงพื้นที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า เพื่อเข้าไปดูว่าทาง รพ.มีความขาดแคลนหรือมีความต้องการใช้เวชภัณฑ์ต่างๆ อย่างไร และเพื่อไปดูว่ามีการบริหารจัดการทรัพยากรอย่างไรบ้าง เพื่อนำมาทำแผนปรับใช้ต่อไป