ส.ส.อุบลฯ แนะจัดสรร-บริหารงบ’ 63 ใหม่ ชะลอซื้ออาวุธนำงบฯช่วยปชช.ก่อน

“เพื่อไทย” แนะ “บิ๊กตู่” บริการจัดการงบฯ 63 ชะลอซื้ออาวุธนำงบฯช่วยปชช.ก่อน ออกพ.ร.บ.กู้เงิน หวั่น พ.ร.ก.ฉุกเฉินไม่ใช่คำตอบ เหตุรัฐบริหาจัดการไร้ประสิทธิภาพ

เมื่อวันที่ 25 มีนาคม นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) และรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า การที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) ในช่วงเวลานี้ถามว่าเหมาะสมหรือไม่คงตอบยาก เพราะพ.ร.ก.ฉุกเฉินมีไว้ในการประกาศเพื่อรักษาความสงบของประเทศเมื่อเกิดเหตุการณ์วุ่นวาย แต่กรณีนี้คือเรื่องของโรคภัยไข้เจ็บ พล.อ.ประยุทธ์ควรประกาศมาตรการเป็นมติครม.จะเหมาะสมกว่า เพราะจะได้รับผิดชอบร่วมกัน ทั้งนี้ การออก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เห็นชัดเจนว่าพล.อ.ประยุทธ์ต้องการรวบอำนาจเองไว้ทั้งหมด ซึ่งครั้งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ายึดอำนาจบริหารประเทศนั้น พล.อ.ประยุทธ์มีอำนาจมากกว่านี้ยังไม่สามารถบริหารจัดการได้ ครั้งนี้ก็หวั่นใจว่าจะไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ดังนั้น พ.ร.ก.ฉุกเฉินจึงไม่ได้เป็นคำตอบที่ถูกต้องเสมอไป หากรัฐมีการบริหารจัดการที่ดี ก็ที่สามารถพาประเทศฝ่าวิกฤติได้ สำคัญที่สุดคือคนที่แถลงข่าวเพื่อบอกประชาชนต้องให้คนที่พูดรู้เรื่องมาแถลง อย่าพูดแบบพล.อ.ประยุทธ์เพราะฟังไม่รู้เรื่อง

นายสมคิด กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่รัฐบาลเตรียมจะออกพ.ร.บ.กู้เงิน ประมาณ 500,000 ล้านบาท ต้องระมัดระวัง ก่อนที่จะออกอยากให้พล.อ.ประยุทธ์ไปบริหารจัดการงบประมาณปี 2563 ให้ได้ก่อน ไม่ได้ห้ามไม่ให้กู้เงิน แต่ขอเป็นทางเลือกสุดท้าย เพราะการจัดทำงบประมาณปี 2563 มีการกู้เงินมาอุดหนุนงบประมาณเป็นจำนวนมากแล้ว ทั้งนี้ รัฐบาลควรเลือกที่จะตัดงบประมาณที่เป็นไขมัน อาทิ การจัดซื้อเรือดำน้ำ ลำที่ 2 และ 3 ไว้ก่อน ตัดงบซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ เพราะเราไม่ได้ไปรบกับใครก็ยังไม่มีความจำเป็น รวมทั้งชะลอโครงการที่ยังไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนเพื่อนำเงินส่วนนั้นมาช่วยเหลือประชาชนที่มีความจำเป็นในการใช้เงินในช่วงนี้ ยืนยันว่าเงินมีแน่นอน ขึ้นอยู่กับบริหารจัดการ ต่อให้มีพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็แก้ไม่ได้ เพราะการบริหารจัดการของรัฐบาลมั่วไปหมด ปัญหาของการแก้ไขปัญหาการระบาดของไวรัสโควิด-19 ไม่สำเร็จก็มาจากการบริหารจัดการของรัฐบาลที่ไร้ประสิทธิ์ภาพ