วิโรจน์ ชี้ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ กม.อ่อน-อำนาจไม่พอ แต่เพราะ รบ.ขาดยุทธศาสตร์แก้โควิด-19

‘วิโรจน์’ ชี้ปัญหาไม่ได้อยู่ที่กฎหมายอ่อน แต่รัฐบาลขาดยุทธศาสตร์แก้โควิด-19

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร โฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาเราพบว่าปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มาจากการประเมินสถานการณ์ที่ต่ำเกินไปของรัฐบาล ขาดการเตรียมความพร้อม ขณะที่ภาคสังคม ประชาชน ถามถึงมาตรการการคัดกรอง ชุดการตรวจ เครื่องมือการตรวจ หรือมีแผนการอย่างไร เครื่องช่วยหายใจ หอผู้ป่วยแยก หรือจำนวนเตียงมีเพียงพอหรือไม่ หรือแม้กระทั่งหน้ากากอนามัยขั้นพื้นฐาน รัฐบาลก็ยังเตรียมการไม่ได้

“ดังนั้นปัญหาไม่ได้อยู่ที่กฎหมายมันอ่อน หรือรัฐมนตรีมีอำนาจไม่เพียงพอ แต่รัฐบาลขาดยุทธศาสตร์ในการแก้ปัญหา และแก้ปัญหาทีละเรื่อง ถ้าแก้เรื่องที่ 1 แล้วจะรองรับเรื่องที่ 2 ได้อย่างไร เช่น กรณี กทม.สั่งปิดห้างสรรพสินค้า หยุดกิจกรรมในกรุงเทพฯ รัฐบาลไม่ได้คาดการณ์ว่าจะมีประชากรแฝงที่มีเป็นล้านคนกลับออกจากต่างจังหวัด ซึ่งจะเป็นผลกระทบสู่วงกว้างไปอีก ทั้งหมดนี้รัฐบาลไม่เตรียมการ ขาดการประเมินผลกระทบ การสื่อสารของรัฐบาลขาดเอกภาพ ขาดการเปิดเผยข้อมูลที่ครบถ้วนและเป็นจริง” นายวิโรจน์กล่าว

นายวิโรจน์กล่าวอีกว่า สิ่งที่เราเป็นกังวล คือ หากรัฐบาลไม่เปลี่ยนความคิดอยู่ในกรอบการทำงานแบบเดิมๆ แต่ที่เพิ่มเติมคือ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะให้อำนาจเจ้าหน้าที่รัฐในการละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชน สามารถจับกุม ควบคุมตัว ตรวจสอบบุคคล และกำหนดโทษกับประชาชนด้วย และไม่มีอำนาจใดคานได้ เจ้าหน้าที่ไม่ต้องรับผิดทางแพ่ง อาญา และวินัย ซึ่งโดยปกติประชาชนสามารถฟ้องร้องแก่รัฐได้ เช่น ในคดีแพ่งเรื่องการบริหารที่ไม่มีประสิทธิภาพ เกิดความเสียหาย ซึ่งถ้ารัฐบาลอยู่ในกรอบความคิดการแก้ปัญหาเดิมๆ ดึงดันทำในสิ่งที่ผิด พ.ร.ก.นี้จะเป็นการส่งเสริมให้ละเมิดสิทธิประชาชน และประชาชนจะไม่สามารถฟ้องร้องรัฐได้เลย

นายวิโรจน์กล่าวอีกว่า เราอยากให้รัฐบาลใช้อำนาจของ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แบบเฉพาะเจาะจงในการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 เท่านั้น และต้องให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างครบถ้วน ตรวจการทำงานของรัฐบาลได้ ถ้าประชาชนไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลจะทำให้ประชาชนประเมินสถานการณ์ด้วยตนเองไม่ได้ และคราวนี้จะเกิดความตระหนกตกตื่นเกิดขึ้นแน่นอน

เมื่อถามว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉินที่รัฐบาลประกาศมานั้น มีความแตกต่างกับที่ยังไม่ประกาศอย่างไรบ้าง โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ดูจากกระแสของประชาชน ก็ยังไม่พบว่าประชาชนจะเชื่อมั่นมากขึ้น เพราะที่ผ่านมาขาดความเชื่อถือไปแล้ว รัฐบาลขาดวิสัยทัศน์ รัฐบาลประเมินสถานการณ์ในช่วงแรกว่าเป็นแค่โรคไข้หวัด ซึ่งตนมองว่าประชาชนไม่ได้เห็นอุปสรรคของกฎหมายที่มีอยู่ แต่มองว่ารัฐบาลขาดศักยภาพในการแก้ปัญหามากกว่า