สมชัย ตั้ง 7 คำถามหา ‘หน้ากากอนามัย’ ขาดตลาด เผย 25 มี.ค.เจอกันใน กมธ. ปชช.

สมชัย ตั้ง 7 คำถามหา ‘หน้ากากอนามัย’ ขาดตลาด เผย 25 มี.ค.เจอกันใน กมธ. ปชช.

วันที่ 24 มีนาคม นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ผอ.ศูนย์วิจัยการเมืองและการพัฒนา มหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์แสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า แนวทางการตรวจสอบกรณีหน้ากากอนามัยขาดตลาด เสนอ กมธ. ปปช.

1. ตั้งคำถามถึง รมต.พาณิชย์ ว่าเหตุใด หรือมีข้อมูล หรือ ผู้บริหารกระทรวงคนใดที่ให้ข้อมูล จนเป็นเหตุให้ท่านแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2563 ว่า มีสต็อกหน้ากากอนามัยอยู่ 200 ล้านชิ้น และยังมีกำลังผลิตได้ถึง 100 ล้านชิ้นต่อเดือน

2. สอบถามกรมศุลกากร ถึงรายชื่อบริษัท ปริมาณการส่งออก รูปลักษณ์สินค้า และมูลค่าส่งออกของหน้ากากอนามัยทุกประเภท (รหัสพิกัดศุลกากร 63079040000 หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ และรหัส 63079090001 หน้ากากอนามัยอื่นๆ) ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 ถึง 4 กุมภาพันธ์ 2563 เพื่อดูว่ามีใครเร่งส่งออกในช่วงก่อนประกาศห้ามส่งออกเกิน 500 ชิ้นบ้าง

3. สอบถามกรมการค้าภายใน ถึงชื่อบริษัท ปริมาณการส่งออก รูปลักษณ์สินค้า และมูลค่าการส่งออก ที่ขออนุญาตส่งออกหลังวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2563 และผลการพิจารณาอนุญาต จำนวนกี่ราย ปริมาณเท่าไร พร้อมเหตุผลในการยอมอนุญาตให้ส่งออกเป็นกรณีพิเศษ

4. สอบถามกรมโรงงานอุตสาหกรรม ถึงรายชื่อโรงงานที่ขออนุญาตจัดตั้งเพื่อผลิตหน้ากากอนามัยทั้งเพื่อจำหน่ายในประเทศและเพื่อส่งออก ว่าในประเทศไทยมีจำนวนเท่าไร และ คาดว่าจะมีกำลังผลิตเท่าไร

5. สอบถามกรมการค้าภายใน ถึง ตัวเลขการจัดสรรหน้ากากอนามัย ให้แก้โรงพยาบาล และร้านค้าต่างๆ โดยขอข้อมูลจัดสรรเป็นรายวันนับตั้งแต่มีประกาศจนถึงปัจจุบัน หากจัดสรรให้โรงพยาบาลหรือร้านค้าใด ขอชื่อและหมายเลขโทรศัพท์เพื่อการติดต่อด้วย

6. ทำการสุ่มตรวจ หรือเปิดช่องทางการสื่อสารจากโรงพยาบาล หรือ ร้านค้าที่ได้รับการจัดสรรว่า ได้ครบตามจำนวนที่จัดสรรหรือไม่

7. หากพบกรณีรั่วไหล หรือ ทุจริตในจุดใด ให้เสนอรัฐบาลและ ป.ป.ช. หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการลงโทษอย่างจริงจัง

กมธ.ปปช. ของสภาฯที่มี พล ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เป็นประธาน จะประชุมกันในวันพุธที่ 25 มีนาคม 2563 นี้ น่าจะมีคำตอบบอกประชาชนได้ในบางเรื่องครับ