สหรัฐฯเผยเสียชีวิตแล้ว 6 ราย จาก “โควิด-19” ดัน ทั่วประเทศเตรียมเพิ่มขีดสามารถตรวจเชื้อ

วันที่ 3 มีนาคม 2563 สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า นายเจฟฟ์ ดูชินน์ หัวหน้าฝ่ายสาธารณสุขประจำนครซีแอตเทิลและกรมสาธารณสุขคิงส์ เคาท์ตี้เปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิตจากโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่เพิ่มอีก 4 ราย จากเดิมเมื่อวานนี้ 2 ราย ทำให้ตัวเลขอยู่ที่ 6 ราย และจำนวนผู้ป่วยในจำนวน 8 จาก 14 ราย เชื่อมโยงกับการระบาดที่ศูนย์การพยาบาลเคิร์คแลนด์ ในนครซีแอตเทิล

แม้ตัวเลขจะเพิ่มขึ้น แต่นายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้กล่าวสรุปที่ทำเนียบขาวระบุว่า การติดเชื้อในชาวอเมริกันถือว่ายังต่ำอยู่

ด้านตัวเลขผู้ติดเชื้อตามข้อมูลระบบในรัฐวอชิงตันตอนนี้อยู่ที่ 18 ราย ซึ่งมากที่สุดกว่าทุกมลรัฐ ซึ่งนายดูชินน์ กล่าวว่า เราคาดว่าตัวเลขผู้ป่วยจะเพิ่มขึ้นอีกในอีกไม่นานจากนี้และเรากำลังรับมือสถานการณ์น่าเป็นห่วงนี้อย่างจริงจัง

อีกทั้ง ทางการของมลรัฐวอชิงตันกล่าวว่า ในพื้นที่เขตคิงส์ เคาท์ตี้ มีผู้ที่โอกาสติดเชื้อแต่กำลังรอผลตรวจ 29 ราย ซึ่งจำนวนจะเพิ่มขึ้นเร็วๆนี้ โดยตอนนี้การทดสอบการติดเชื้อดำเนินการอยู่ที่ 200 ตัวอย่างต่อวัน และหน่วยงานสาธารณสุขคาดว่าจะเพิ่มการคัดกรองเชื้อไวรัสให้ได้อย่างน้อย 1,000 ตัวอย่างต่อวัน

ขณะที่ กรมควบคุมโรคกลางของสหรัฐฯหรือ ซีดีซีกล่าวว่า  เมื่อวานนี้ ตัวเลขผู้ติดเชื้อทั้งมีการยืนยันและสันนิษฐานในสหรัฐฯเพิ่มขึ้นเป็น 91 ราย โดยหลายคนอยู่ในกลุ่มผู้ถูกส่งตัวกลับไปยังสหรัฐอเมริกาไม่ว่าจะเป็นเรือสำราญไดมอนด์ พรินเซส ที่ถูกกักตัวไว้ก่อนหน้านี้ในญี่ปุ่นหรือจากเมืองหวู่ฮั่นของจีนซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของโรคระบาดทั่วโลก

นอกจากนี้ องค์การอนามัยโลกกล่าวว่า นายแอนดรูว์ คัวโม่ ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กยินดีต่อการตัดสินใจของ CDC ที่อนุญาตให้นิวยอร์กเป็นเขตทำการทดสอบไวรัส โดยนายคัวโม่กล่าวว่า ตนได้ตั้งเป้าหมายทำการทดสอบการติดเชื้อให้ได้ 1,000 ครั้งต่อวันภายใน 1 สัปดาห์อีกครั้ง ยิ่งทดสอบมากเท่าไหร่ ยิ่งดีเท่านั้น

ทางกระทรวงสาธารณสุขกลางกล่าวว่า จำนวนเครื่องทดสอบการติดเชื้อโคโรน่าไวรัสจะเพิ่มอย่างรวดเร็วในอีกไม่กี่อาทิตย์

ทั้งนี้ ฝั่งกองทัพสหรัฐฯนั้น นายพลมาร์ค มิลลี่ ประธานคณะเสนาธิการร่วมกล่าวว่า อุปกรณ์ป้องกันและชุดทดสอบการติดเชื้อได้แจกจ่ายให้กับฐานทัพสหรัฐฯโดยกระจายไปทั่วคาบสมุทรเกาหลีแล้ว และศูนย์วิจัยกองทัพของรัฐบาลสหรัฐฯกำลังเร่งมือในการพัฒนาวัคซีนอยู่