วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2563 นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ผลการลงมติการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลที่ออกมาไม่เกินความคาดหมาย การทำงานของพรรคร่วมฝ่ายค้านที่ผ่านมา ชี้ให้เห็นถึงความผิดพลาดในการบริหารประเทศ รวมไปถึงการเอื้อกลุ่มทุนใกล้ชิดรัฐบาล ได้รับผลประโยชน์จากนโยบายรัฐบาล สร้างสังคมรวยกระจุก จนกระจาย รวมทั้งการทำงานที่ไม่รับผิดชอบต่อประชาชน และการใช้จ่ายงบประมาณที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์กับประเทศ

นายวิสาร กล่าวด้วยว่า การตอบคำถาม พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นการตอบ ที่ไม่ตรงคำถามของฝ่ายค้าน แต่ใช้เวทีอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นการฟอกตัวเอง รวมทั้งแกล้งโง่เรื่องการลงทุน
เอาตัวเลขของการส่งเสริมการลงทุนมาอธิบายทั้งๆที่รู้อยู่แล้วตัวเลขนี้เป็นตัวเลขที่อุปโลกขึ้นมาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ท่านเอามาอธิบายในสภา

“พลเอกประยุทธ์เลือกไปตอบนโยบายรัฐบาลที่เคยเอามาอภิปรายในสภาอยู่แล้วมาพูดอีกครั้ง เป็นการตีกินและพูดเพื่อยกตัวเองว่าเก่งกว่าใคร ไม่ยอมรับความจริงว่าบริหารงานผิดพลาดส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน วันนี้หมดเวลาของพลเอกประยุทธ์แล้ว หากให้ อยู่ในตำแหน่งต่อไปประชาชนจะเดือดร้อนหนักกว่านี้” นายวิสารกล่าว

ด้านนายการุณ โหสกุล ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า จากกรณีที่ โรงเรียนนานาชาติแห่งหนึ่งย่านดอนเมือง มีการพานักเรียนไปทัศนศึกษาในประเทศกลุ่มเสี่ยง จำนวน 505 คน ในจำนวนนี้มีครูรวมอยู่ด้วย 60 คน และได้เดินทางกลับประเทศไทยเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พบว่า มีนักเรียนรายหนึ่งติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้ว และจะมีเพิ่มจำนวนหรือไม่นั้น ยังไม่ได้รับรายงาน แต่ได้กำชับให้ผู้บริหารดูแลและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค
ทั้งนี้จากการลงพื้นที่เพื่อพบปะประชาชน พบว่าประชาชนในพื้นที่ดอนเมืองมีความกังวลเป็นอย่างมาก เพราะหวั่นว่าจะมีการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19มากขึ้น เพราะมาตรการภาครัฐที่ออกมาไม่สามารถสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนได้เลย ทั้งนี้สำหรับโรงเรียนดังกล่าวมีนักเรียนทั้งหมดกว่าพันคน ส่วนโรงเรียนพระหฤทัยดอนเมือง ที่มีนักเรียนรายหนึ่งติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้ว และจะมีเพิ่มจำนวนหรือไม่นั้น ถึงวันนี้ยังไม่มีหน่วยงานไหนให้ความมั่นใจกับประชาชนได้เลย ทั้งๆที่รัฐบาลต้องมีมาตรการมากกว่านี้ไม่ควรปล่อยให้ประชาชนแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นมาเอง

นายการุณ กล่าวด้วยว่า ความรู้สึกถึงความปลอดภัยในชีวิตประชาชนหาได้ยากยิ่งในรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพราะพลเอกประยุทธ์ห่วงในการรักษาตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและการักษาสถานภาพรัฐบาลมากกว่า ดังนั้นจึงไม่แปลกใจว่ารัฐบาลไม่ให้ความสำคัญในการความปลอดภัยในชีวิตของประชาชน ทั้งๆที่รัฐธรรมนูญมาตรา 47 ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า บุคคลย่อมมีสิทธิได้รับบริการสาธารณสุขของรัฐ บุคคลผู้ยากไร้ย่อมมีสิทธิได้รับบริการสาธารณสุขของรัฐโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายตามที่กฎหมายบัญญัติ บุคคลย่อมมีสิทธิได้รับการป้องกันและขจัดโรคติดต่ออันตรายจากรัฐโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย