มือยิง “มาลาลา” โวผ่านโลกออนไลน์ หลบหนีคุกมานานร่วมเดือน

(ซ้าย) นายเอห์ซานุลเลาะห์ เอห์ซาน แนวร่วมกลุ่มติดอาวุธเครือข่ายตาลิบันในปากีสถาน ผู้ก่อเหตุยิง มาลาลา ยุซัฟไซ เมื่อปี 2555

เดลีเมล์ รายงานวันที่ 9 ก.พ. ว่า นายเอห์ซานุลเลาะห์ เอห์ซาน สมาชิกกลุ่มติดอาวุธจามาอัต อุล-อาห์ราร์ เครือข่าย กองกำลังตาลิบัน ในปากีสถาน ผู้ก่อเหตุยิง น.ส.มาลาลา ยูซัฟไซ นักต่อสู้เพื่อสิทธิการศึกษาของสตรี จนบาดเจ็บสาหัสขณะอายุ 15 ปี เมื่อปี 2555

โพสต์ข้อความเย้ยหยันผ่านโซเชียลมีเดียว่าสามารถหนีออกจากที่คุมขังได้นานเกือบ 1 เดือนแล้ว ภายหลังถูกจับกุมในปี 2560 และว่าทำข้อตกลงกับทางการปากีสาน โดยไม่ได้ระบุว่าเป็นข้อตกลงอะไร แต่หลายฝ่ายเชื่อว่านายเอห์ซานอาจถูกควบคุมตัวในบ้านพักแทนที่จะเป็นเรือนจำ

อย่างไรก็ตาม นายเอห์ซานระบุถึงสาเหตุที่หลบหนีว่าเป็นเพราะทางการไม่รักษาสัญญา เบื้องต้นยังไม่มีแถลงชี้แจงของรัฐบาลปากีสถาน

ทั้งนี้ มาลาลาเริ่มเคลื่อนไหวตั้งแต่ช่วงอายุ 11-12 ปี โดยแสดงความคิดเห็นเรียกร้องสิทธิทางการศึกษาให้กับเด็กหญิงและผู้หญิงในปากีสถาน ซึ่งจำนวนมากไม่ได้เรียนหนังสือ และหลายครั้งที่กองกำลังตาลิบันบุกโจมตีโรงเรียนที่เปิดรับนักเรียนหญิง จากนั้นเดินหน้ารณรงค์สิทธิทางการศึกษาสำหรับทุกเพศอย่างจริงจัง

กระทั่งวันที่ 9 ต.ค.2555 ขณะนั่งรถโรงเรียนกับเพื่อน จู่ๆ นายเอห์ซานซึ่งลักลอบขึ้นมาบนรถก็ใช้ปืนยิงที่ศีรษะของเด็กสาวนักเคลื่อนไหว เป็นเหตุให้บาดเจ็บสาหัส ก่อนได้รับความช่วยเหลือจากนานาชาติ และส่งตัวมาลาลาไปยังโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์การแพทย์ทันสมัยในเมืองเบอร์มิงแฮม ประเทศอังกฤษ ซึ่งมาลาลาพักรักษาตัวที่นี่จนหายเป็นปกติ

ต่อมามาลาลาเรียนต่อระดับมัธยมศึกษา และในปี 2557 เมื่ออายุ 17 ปี สามารถคว้ารางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ร่วมกับนายไกรลาศ สัตยาธี นักรณรงค์เพื่อสิทธิเด็กชาวอินเดีย และขึ้นแท่นเป็นเจ้าของรางวัลโนเบลที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์

จากนั้นในปี 2561 มาลาลาได้รับเลือกให้ศึกษาระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด พร้อมทำงานด้านมูลนิธิรณรงค์สิทธิทางการศึกษาในเด็กและสตรีควบคู่ไปด้วย