ถอนฟ้อง 3 NGOs ฐานหมิ่นประมาท แพร่รายงานสิทธิมนุษยชนปี59

“กอ.รมน.ภาค 4 สน.” ถอนฟ้อง 3 NGOs ฐานหมิ่นประมาท แพร่รายงานสิทธิมนุษยชนปี59 บรรลุข้อตกลงร่วม 3 ข้อ ตั้งคกก.ตรวจสอบข้อเท็จจริง กำหนดมาตราการแก้ไขหลังเหตุละเมิด และจัดทำรายงานสิทธิมนุษยชน ผ่านกลไกต่างๆ เพื่อร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริง ให้การรายงานถูกต้อง ย้ำอย่านำรายงานไปใช้เพื่อโฆษณาชวนเชื่อหรือแอบแฝงใดๆ

พล.อ.มณี จันทร์ทิพย์ ผู้แทนพิเศษรัฐบาล ‘คปต.ส่วนหน้า’ พร้อม พล.ท.ชินวัฒน์ แม้นเดช ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ทบ. และ รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า จัดหารือร่วม 3 เอ็นจีโอ นายสมชาย หอมละออ น.ศ.พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ มูลนิธิผสานวัฒนธรรม น.ส.อัญชนา หีมมิหน๊ะ กลุ่มด้วยใจ พร้อม ดร.โคทม อารียา ผอ.ศูนย์ศึกษาและพัฒนาสันติวิธี และ ผู้แทนจากองค์การสหประชาชาติ เพื่อไกล่เกลี่ยให้ยกฟ้องและยุติการดำเนินคดี กรณี กอ.รมน.ภาค 4 สน.ยื่นฟ้องนักสิทธิมนุษยชนฐานหมิ่นประมาท ที่ สภ.เมืองปัตตานี

ด้านพ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกอ.รมน.ภาค4 ส่วนหน้า กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ไม่มีเจตนาเอาความทางคดี ให้เอ็นจีโอได้รับโทษทัณฑ์ แต่ต้องการให้เกิดการแก้ปัญหา มีการตรวจสอบความจริงร่วมกัน ตรวจสอบความจริงร่วมกัน และต้องการให้เกิดการแก้ปัญหา มีการจัดทำรายงานร่วมกัน ไม่ให้เกิดเหตุละเมิดสิทธิมนุษยชนในพื้นที่ จ.ชายแดนภาคใต้อีก

พร้อมกันนี้ได้บรรลุข้อตกลงร่วมกัน 3 ประการตั้งการตุ้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้น สองคือการป้องกันการละเมิด กำหนดมาตราการแก้ไขหลังเหตุละเมิด และการกำหนดสถานที่นำตัวเข้าซักถามข้อมูลและจัดทำรายงานสิทธิมนุษยชน ผ่านกลไกต่างๆ เพื่อร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริง ให้การรายงานถูกต้อง ไม่กระทบฝ่ายใดก็ตาม โดย กอ.รมน.ภาค4 ส่วนหน้า ยินดีทำงานร่วมกับองค์กรสิทธิมนุษยชน และประชาชน มาร่วมกันตรวจสอบด้วย

พล.ท.ชินวัฒน์ กล่าวว่า การพูดคุยไกล่เกลี่ยในวันนี้ไม่เกี่ยวข้องกับกรณีใดๆ เช่น การไปประชุมกับเวทีระหว่างประเทศ แต่เป็นการทำงานร่วมกับองค์กรNGOs ขอออย่าไปโยงใดๆ แต่ต่องการทำงานร่วมกับภาคสวนต่างๆยุติอย่างสันติวิธี

เราตั้งกลไกขึ้นมาตรวจสอบ เป็นสิทธิของเอ็นจีโอที่จะจะดทำรายงาน ไม่มีการปิดกั้นรายงาน และต้องกาแนวทางแก้ไขจะลงโทษผู้ละเมิดสิทธิอย่างไร และเยียวยาผู้ถูกรัฐละเมิดอย่างไร ในกรณีที่พิสูจน์แล้วมีความเป็นจริง

ด้านนายสมชาย กล่าวว่า การจัดทำรายงานเสนอให้มีการทำงานร่วมกัน ตรวจสอบกันก่อนนำไปเผยแพร่ ไม่ให้อ้างอิงเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ทางการเมือง

ส่วนรายงานสิทธิมนุษยชนในพื้นที่ 54 กรณี ไม่ว่าจะเรื่องร้องเรียนใด ก็จะนำมาตรวจสอบร่วมกันทั้งฝ่ายรัฐและเอ็นจีโอ ไม่นิ่งดูดาย ไม่ทอดทิ้ง หากมีเจ้าหน้าที่กระทำผิดจริง จะกำเนินการตามกฎหมาย และเยียวยาผู้ถูกละเมิด

ทั้งนี้เอกสารไม่สามารถเรียกคืนมาได้ แต่จะนำเอกสารจะเอาไปใช้เพื่อโฆษณาชวนเชื่อหรือแอบแฝงใดๆไม่ได้ ดังนั้นรายงานในอนคตจะต้องสะท้อนข้อเท็จจริงและความเห็นต่างๆของทุกฝ่าย