นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีไวรัสโคโรนาหลายฝ่ายกังกวลว่าอาจกระทบเศรษฐกิจไทยว่า ขณะนี้รัฐบาลกำลังการบริหารจัดการอย่างเหมาะสม ซึ่งในเรื่องของการท่องเที่ยวฯ กระทรวงท่องเที่ยวฯ กำลังดูอยู่ ส่วนที่กังวลว่าจะกระทบต่อการบริโภคมองว่ายังไม่ได้กระทบ

“ขณะนี้ปัญหาเกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจทั้งในเรื่องไวรัสโคโรนา งบประมาณ2563 นั้น ต้องแก้ปัญหาไปทีละอัน โดยในเรื่องงบประมาณนั้นขณะนี้ดูตามกฎหมายว่าจะดำเนินการอย่างไร ยังไม่สรุปว่าจะใช้แนวทางไหน”นายอุตตมกล่าว

ด้านนายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กรณีไวรัสโคโรมีความกังวลว่าจะกระทบท่องเที่ยว คาดว่าจะกระทบแค่ระยะสั้นๆ โดยสิ่งที่ต้องทำคือป้องกันไม่ให้การแพร่ของไวรัสโคโรนาเกิดขึ้น และเตรียมแผนล่วงหน้าเพื่อฟื้นภาคการท่องเที่ยวหลังจากโรคไวรัสหมดไป เช่น ชักชวนประเทศที่อยากมาท่องเที่ยวให้เข้ามาในไทยมากขึ้น โดยขณะนี้การเที่ยวแบบเที่ยวบินแบบยังคงมีอยู่ไม่ได้หายไป

นายประสงค์ กล่าวต่อว่า สำหรับภาวะเศรษฐกิจของไทย คาดว่าช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2563 (ตุลาคม-ธันวาคม 2562) น่าจะประคองไปได้ โดยในเรื่องปัญหางบงบประมาณ 2563 จะมีผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และนายอุตตม พยายามหามาตรการมาดูแลเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากมาตรการดำเนินการไปก่อนหน้านี้ เช่น การเลื่อนจ่ายภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากมีกำหนดสิ้นสุดมีนาคมออกไป ทำให้มีเม็ดเงินกว่า 1 แสนล้านบท เข้ามาช่วยระบบเศรษฐกิจ และช่วยบรรเทาภาระประชาชน

“รัฐบาลพยายามแก้ไขในเรื่องเศรษฐกิจ โดยยอดจัดเก็บภาษีขณะนี้ยังเกินเป้าหมาย ตัวเลขจีดีพีไม่ได้แย่ ค่าเงินบาทยังไปได้”นายประสงค์กล่าว

นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กล่าวว่า ปัญหาของงบประมาณ 2563 ของไทยคงไม่ถึงขั้นไม่มีงบใช้จ่าย หรือชัตดาวน์ อย่างที่หลายฝ่ายกังวล โดยในช่วงปลายเดือนมกราคมนั้นกระทรวงการคลังจะมีการประเมินภาพรวมของเศรษฐกิจไทย ว่าปีนี้จะขยายตัวเท่าไหร่ ซึ่งในเรื่องงบประมาณเป็นหนึ่งในสมมุติฐานที่นำมาประเมิน รวมทั้งดูสมมุติฐานอื่นๆ ประกอบ เช่น ไวรัสโคโรนา สถานการณ์การค้าโลก สถานการณ์ของสงครามการค้าว่าเป็นอย่างไร ซึ่งมีทั้งบวกและลบ