ไอซีเจชี้ มีอำนาจพิจารณาคดีฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โรฮิงญาในพม่า พร้อมออกมาตรการคุ้มครองฉุกเฉิน

วันที่ 23 มกราคม 2563 สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ศาลสถิตย์ยุติธรรมระหว่างประเทศหรือไอซีเจ ได้มีคำวินิจฉัยว่า อัยการชาวแกมเบียในฐานะฝ่ายโจทก์ที่ยื่นฟ้องร้องคดีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวโรฮิงญาโดยรัฐบาลพม่าในฐานะจำเลย โดยพม่าได้ละเมิดตามบทบัญญัติในอนุสัญญาเจนีวาว่าด้วยการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ปี 1948 นั้นอยู่ในเขตอำนาจศาลที่จะพิจารณาคดี พร้อมกับออกมาตรการฉุกเฉินสั่งให้พม่าคุ้มครองชาวโรฮิงญากว่า 7 แสนคนจากการการจับกุมโดยพลการหรือการฆ่าล้างอย่างโหดร้าย พร้อมกับสั่งดูแลรักษาหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดทั้งหมด

รายงานระบุว่า คณะผู้พิพากษา 17 คนได้นั่งบนบัลลังก์ ได้มีคำวินิจฉัยเป็นเอกฉันท์ให้พม่าดำเนินการทุกขั้นตอนตามอำนาจหน้าที่ในการยับยั้งการประทุษร้ายต่อชาวโรฮิงญาและรายงานผลการดำเนินการ การคุ้มครองและรักษาพยานหลักฐานทั้งหมดภายใน 4 เดือน

ด้านองค์กรภาคประชาชนของพม่านับร้อยองค์กรได้ร่วมเผยแพร่แถลงการณ์ระบุ พวกเขาหวังอย่างยิ่งที่ความพยายามของไอซีเจจะนำไปสู่ความจริงและยุติการพ้นผิดลอยนวล

“นโยบายทางการเมืองและการทหารล้วนนำไปสู่การใช้ความุรนแรงและการคุกคามต่อชาวพม่าอย่างเป็นระบบและมีโครงสร้างชัดเจน บนพื้นฐานของความเชื่อทางการเมืองและศาสนาและอัตลักษณ์เชื้อชาติและยังคงดำเนินไปเช่นนี้จนถึงปัจจุบัน” แถลงการณ์ ระบุและว่า เราเข้าใจอย่างแจ่มชัดว่าคดีต่อพม่าจะนำไปสู่การนำตัวผู้รับผิดชอบที่มีอำนาจทางการเมืองและทางทหาร ไม่ใช่กับชาวพม่าทั้งมวล

ทั้งนี้ คำตัดสินของไอซีเจถือเป็นที่สิ้นสุดและไม่มีการอุทธรณ์ แต่ไม่มีวิธีการบังคับใช้ได้จริงๆ