สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า สมาชิกสภาสามัญ(สภาผู้แทนราษฎร)ของอังกฤษจะโหวตเห็นชอบร่างกฎหมายว่าด้วยข้อตกลงถอนตัวจากสหภาพยุโรป(อียู)ตามแผนการของนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีหรือไม่ ในวันที่ 20 ธันวาคมตามเวลาท้องถิ่น โดยร่างกฎหมายนี้จะทำให้ข้อตกลงเบร็กซิทที่จอห์นสันได้ตกลงไว้กับอียูเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งกำหนดเส้นตายให้อังกฤษถอนตัวออกจากอียู(เบร็กซิท)ภายในวันที่ 31 มกราคมปี 2020 มีผลบังคับใช้

นอกจากนั้นยังห้ามรัฐบาลฃขยายช่วงระยะเวลาเปลี่ยนผ่านหรือทรานซิชันพีเรียด ที่อังกฤษและอียูจะใช้ช่วงเวลานี้ในการเจรจาทำข้อตกลงการค้าระหว่างกัน ออกไปเกินกว่าวันที่ 31 ธันวาคมปี 2020 และให้อำนาจแก่ศาลอังกฤษมากขึ้นในการพิจารณาคำตัดสินของศาลยุติธรรมอียูซึ่งมีการสงวนสิทธิ์ไว้ภายใต้กฎหมายอังกฤษหลังจากการเบร็กซิท รวมทั้ง ให้คณะรัฐมนตรีต้องรายงานข้อพิพาทต่างๆที่มีกับอียูต่อรัฐสภาด้วย

นายจอห์นสันชี้ว่าร่างกฎหมายฉบับนี้จะยุติความล่าช้าที่มีมานานและทำให้เกิดความเชื่อมั่นเรื่องเบร็กซิทมากขึ้น แต่ฝ่ายคัดค้านเห็นแย้งว่าร่างกฎหมายนี้จะยิ่งทำให้อนาคตของอังกฤษมีความไม่แน่นอน และการทำความตกลงทางการค้ากับอียูอาจต้องใช้เวลาหลายปี ทว่ารัฐบาลจอห์นสันยืนยันว่าจะสามารถทำความตกลงทางการค้ากับอียูได้เมื่อช่วงระยะเวลาเปลี่ยนผ่านที่กำหนดไว้สิ้นสุดลง

ทั้งนี้ร่างกฎหมายฉบับนี้ได้มีการนำเสนอในระหว่างที่สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ประมุขแห่งราชวงศ์อังกฤษ ทรงมีพระบรมราโชวาทเนื่องในวาระเปิดสมัยประชุมสภาสามัญเมื่อวันที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมาแล้ว โดยสมาชิกสภาสามัญจะได้อภิปรายในร่างกฎหมายนี้ในการพิจารณาวาระที่ 2 ในวันเดียวกันนี้ ก่อนจะมีการเปิดโหวตรับหลักการ ซึ่งเป็นที่คาดหมายว่าพรรคอนุรักษนิยมของนายจอห์นสันที่ครองเสียงข้างมากในสภาสามัญเกินกึ่งหนึ่งอยู่มากกว่า 80 เสียงหลังชนะเลือกตั้งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จะผลักดันร่างกฎหมายฉบับนี้ผ่านความเห็นชอบจากสภาไปได้อย่างสบายๆ