“โค้ชสนธิ” ถึง “ธนาธร” คุณกำลังเดินเข้ากับดักที่เขาวางเอาไว้ ชี้ ยังมีทางสู้ ก่อนลงถนน

สนธิ ลิ้มทองกุล เตือน ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ คิดให้ดีก่อนลงถนน ชี้ ยังมีช่องทางสู้ 

เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. นายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ไลฟ์สดทางเฟสบุ๊ก แสดงความเห็นเรื่อง เมื่อนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จะลงถนน โดยระบุว่า

วิกฤตการเมืองไทย เกิดจากพรรคเพื่อไทย เหลิงอำนาจ พยายามออกกฎหมายนิรโทษกรรมสุดซอย จนเกิดการชุมนุม กปปส . แต่แกนนำกปปส.ก็ทำเรื่องนี้ให้ใหญ่โต ร่วมมือกับทหารบางกลุ่ม จนเกิดการยึดอำนาจ วันนี้ความสัมพันธ์ของกปปส. กับคสช.ยังมีสายสัมพันธ์กับทหาร กปปส.หลายคนได้รับตำแหน่งทางการเมือง แกนนำได้รับตำแหน่งทางการเมือง ต่างกับพันธมิตรฯที่ไม่เคยได้รับตำแหน่งทางการเมือง

นายสนิธิ กล่าวต่อว่า หลังมีคสช. เราได้เห็นขั้วความชัดเจนหลังประกาศการเลือกตั้ง ภายใต้รัฐธรรมนูญที่ร่างโดยนายมีชัย ฤชุพันธุ์ เพื่อต่อยอดอำนาจ แต่ก็ยังพอเห็นแสงสว่างในปลายอุโมงค์ ทุกคนก็สมัครลงเลือกตั้ง มีพรรคทหารคือพลังประชารัฐ และฝ่ายทักษิณนำโดยเพื่อไทย และก็มีพรรคอนาคตใหม่เกิดขึ้น จากความอึดอัดใจ ที่เห็นการเมืองไทยย้อนหลัง โดยเฉพาะในพลังประชารัฐที่เต็มไปด้วยนักการเมืองเก่า เขี้ยวลากดิน แทบไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง นักการเมืองเหล่านี้ พลเอกประยุทธ์ ก็เคยดุด่า เหยียดหยามมาก่อน ว่าเป็นคนทำให้ชาติบ้านเมืองพัง แต่วันนี้กลับมาโอบอุ้มกัน รักกัน คนรุ่นใหม่ที่มองการเมืองก็รับไม่ได้ ที่สำคัญคนรุ่นใหม่ก็ไม่ได้มองเพื่อไทย ที่ก็มีนักการเมืองเขี้ยวลากดินเช่นกัน เพราะคนรุ่นใหม่ก็ไม่เอาทักษิณ นี่คือจุดกำเนิดของอนาคตใหม่

“ธนาธรคือตัวแทนภาพคนรุ่นใหม่ มีคนเลือกมาก ได้ส.ส. 80 เสียง ยิ่งฮึกเหิม คิดว่าน่าจะเข้าไปเปลี่ยนระบบได้ แต่สุดท้ายก็ถูกอุปสรรคจากรัฐธรรมนูญ เข้ามาอย่างไม่รอบคอบ ก็รู้ว่ากติกานั้นพวกเขาเป็นคนร่าง ตัวเองก็ทำให้เกิดช่องโหว่ จนได้รับบาดเจ็บ ตั้งแต่หุ้นสื่อ ยัน เงินกู้ แทบจะถูกยุบพรรค ความผิดพลาด เหตุจากยุทธวิธีต่อสู้ ไม่ใช้วิธีแทรกซึม ไม่ใช้วิธีใจเย็น หาทางเปลี่ยนแปลงแบบค่อยๆเป็นค่อยๆไป จุดผิดมากสุดคือเข้ามาเล่นในระบบ ได้ 81 เสียง แล้วไม่ได้เป็นรัฐบาล ซึ่งทุกอย่างที่โจมตีอยู่นั้น มีเหตุมีผล เรื่องวิจารณ์ทหารตนเห็นด้วย ไม่ใช่ไม่เห็นด้วย ขณะเดียวกันทหารก็ควรใช้โอกาสนี้ที่ถูกวิจารณ์ความไม่โปร่งใสของงบประมาณ มาปรับแก้ไขตัวเอง แต่ทหารก็คือทหาร ไม่ยอมปรับปรุงแก้ไขใดๆทั้งสิ้น ทำตัวเป็นผู้ถูกแตะต้องไม่ได้เหมือนเดิม เหล่านี้ยิ่งสร้างความชอบธรรมให้กลุ่มธนาธรมากขึ้น อาจารย์มหาวิทยาลัยหลายคนที่ไม่ชอบเพื่อไทย ก็ยังเห็นด้วยกับนายธนาธร” นายสนธิกล่าว

และว่า การที่ธนาธรคิดสร้างแฟลชม็อบ ตนขอเตือนไว้ การชุมนุมแบบของธนาธร ที่จะโค่นรัฐบาล ยังไงก็ไม่ได้ผล แฟลชม็อบก็คือแฟลชม็อบ มันไม่มีการต่อเนื่อง มันไม่เหมือนกับคนที่ตัดสินใจแล้วว่าตายเป็นตาย แต่เชื่อว่าการชุมนุมต่อเนื่อง คิดว่านายธนาธรก็คงไม่อยากทำ ที่เกิดขึ้นเหมือนยุงกัดทีละนิดๆ ได้แต่หวังว่า ยุงนั้น จะมีซักตัว สองตัวเป็นยุงลาย ทำให้คนถูกกัดเป็นไข้เลือดออก แต่อย่างที่บอก ยุงกัดมันไม่มีประโยชน์ แต่รัฐบาลก็ไปเติมเชื้อไฟให้ ยิ่งไปขู่จะเอาผิดกฎหมายยิ่งเติมเชื้อไฟ ฟ้องให้ยุบพรรค นี่ยิ่งเพิ่มเชื้อเพลิง คนยิ่งเห็นใจธนาธร มีคนถามว่า ที่ธนาธรบอกว่า ปีหน้าของจริง จะเหมือนฮ่องกงไหม ผมบอกเลย ไม่เหมือน เพราะคนรุ่นใหม่ฮ่องกงกับไทย มันคงละพวก ในฮ่องกงมันมีทุกรุ่น ไม่ใช่แค่รุ่นใหม่ ที่อึดอัดใจกับจีน แต่คนรุ่นใหม่ในไทย นั้น พ่อ-แม่ อาจจะชอบประยุทธ์ แต่ลูก-หลานชอบธนาธร มันไม่มีเอกภาพ จึงทำได้อย่างเดียวคือกวนน้ำให้ขุ่น และบางครั้งธนาธรก็ตกเป็นเหยื่อของสถานการณ์ หลังๆอาจลืมตัว ไปจนถึงก้าวร้าว เช่นที่พูดเรื่อง ทางเลือกแก้รธน. ที่ต้องใช้เลือดแก้ หรือทุกคนมาร่วมมือกัน ไม่รู้คุณธนาธรคิดยังไง แต่คำว่าใช้เลือดนี่มันสะเทือนใจคนมาก โดยเฉพาะผู้มีอำนาจ ทหาร ที่แปลความคิดออกมาว่าพูดแบบนี้แปลว่าจะทำให้มีการนองเลือดใช่หรือไม่ ก็ไปสร้างความตระหนกตกใจกลัวกันขึ้นมา

นายสนธิกล่าวต่อว่า ธนาธรจึงกลายเป็นกระสุนตก จากทั่วสารทิศ นี่คือสิ่งที่คุณธนาธรต้องรู้ข้อผิดพลาดนี้ อีกประการหนึ่ง เมื่อคุณเข้ามาสู่ระบบ เขาก็คิดว่าคุณต้องสู้ในระบบ พล.อ.ประยุทธ์ถึงพูดไง ว่าทำไมไม่สู้ในระบบ แม้พล.อ.ประยุทธ์ จะคุมระบบอยู่ แต่จริงๆ ก็มีวิธีที่คุณจะเปลี่ยนระบบนั้นได้ เพราะถ้าคุณเป็นพรรคที่มีส.ส. มีคุณภาพ อุดมการณ์ อยู่ในสภา ก็อย่าไปสู้อยู่เรื่องเดียวว่าแก้รัฐธรรมนูญ แต่ต้องสู้เรื่องการบริหารงานของรัฐบาล ว่าเต็มไปด้วยความไม่โปร่งใสอย่างไร ก็สู้ไปแบบนี้ ย้ำคิดย้ำทำ พูดให้ตลอดเวลา เสียงหนุนจะค่อยๆเพิ่มมากขึ้น เข้ามาหาคุณ ประเทศไทยไมใช่แค่แก้รัฐธรรมนูญแล้วทุกอย่างจะไปได้ดี ประเทศไทยร่างรัฐธรรมนุญมาแล้วกี่ครั้ง ขนาด ฉบับปี 2540 เป็นรธน.ดีที่สุด ก็ยังโดนทหารปฎิวัติ แล้วรู้ได้ไงว่าแก้แล้ว รธน.นี้จะทำให้ชาติไปได้ ทำให้คนมีข้าวปลากิน ประเทศที่มีปชต.ที่สุดยังข้าวยากหมากแพงเลย เรื่องนี้น่ากลัว แต่ผมไม่คิดว่า ม.ค.เป็นของจริง ผมคิดว่าไม่จริง รัฐบาล ก็จะปล่อยให้คุณบ้าไป แล้วก็เล่นงานคุณด้วยกฎหมาย

“คุณธนาธรครับ ถ้าคุณจะสู้ คุณต้องผ่านอย่างพวกผมมาก่อน หรือคุณต้องผ่านอย่างจตุพร พรหมพันธ์ หรือย่างณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ต้องเจอทุกอย่าง ทั้งคดีความ ความร้อน ปักหลัก นอนเวที พื้นหญ้า ชุมนุมกันเป็นปี ผมนี่โดนลูกปืนมา 200 นัด คุณยังไม่เคยผ่านขั้นนั้น มันไม่ใช่เรื่องง่าย ถามตัวคุณเองพร้อมจะสู้ไหม พร้อมจะควักหมื่นล้านมาสู้ไหม คุณก็ไม่พร้อม การต่อสู้ครั้งนี้ผมไม่ดูถูก ถ้าคุณสู้ในระบบที่พวกเขาอยู่ในระบบ คุณมาสู้ในถนน ก็ไม่ได้สู้จริง สู้แบบฉาบฉวย แบบดิจิทัล แฟลชม็อบก็กลับบ้าน เลิก พอคดีเริ่มมาถึงแต่ละคดีๆไปเรื่อยๆ พอมีคดีอาญา คุณหรือคุณช่อ อ.ปิยบุตร เริ่มถูกศาลสั่งจำคุก เพราะผู้พิพากษาเขาก็ต้องว่าตามกฎหมาย คุณธนาธรครับ นรกอยู่ข้างหน้า เชื่อผม ผมผ่านมาหมดแล้ว ผมผ่านมาถึงจุดที่พวกเขาเชื่อว่า ผมเป็นตัวอันตรายทำให้พวกเขาไม่สามารถกุมอำนาจได้ เขาถึงลงขันกันเพื่อยิงผม 200 นัด คุณยังไม่ถึงตรงนั้น คุณยังมีครอบครัว ธุรกิจอีกเยอะ คิดให้ละเอียด คิดให้ดีๆ มันมีวิธีทางสู้ มันมีวิธีเอาอุดมการณ์สู้ คุณได้เปรียบอยู่แล้ว เพราะสิ่งที่คุณคิดที่อยากเปลี่ยนประเทศ มันเป็นความฝันของหลายๆคน แต่วิธีการคุณมันดูทำเพื่อตัวคุณเอง นั่นคือภาพที่คนอื่นเขามองคุณอยู่ในขณะนี้ ผมไม่ปฎิเสธ พัธมิตรหลายคนก็เข้าร่วมกับคุณ กปปส.หลายคนก็เข้าร่วมกับคุณ แต่คุณสู้แบบนี้เหมือนคุณเอาหัวชนกำแพง เชื่อผมเถอะไม่ได้ผล”

ที่พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศ อย่างมั่นคง ไม่มีใครล้มเขาได้ แสดงว่าเขาได้เตรียมการอะไรไว้บางอย่าง แล้วคนที่มีอำนาจรัฐ กับคนที่ไม่มีอำนาจรัฐ คำตอบมันมีอยู่ในตัว ตนจึงเชื่อว่ามันจุดไม่ติด ตอนนี้สำนักข่าวต่างประเทศเริ่มปักหลักกรุงเทพฯ รอเดือนมกราคม แต่ตนเชื่อไม่สำเร็จ ตำรวจรายงาน 800 คน แต่ตนพูดอย่างเป็นกลางที่สุดคือหลายพันคน เพื่อความแฟร์ แต่คำถามคือหลายพันคนแล้วไง เลิกงานก็มา จบงานก็กลับ ถ้าจะสู้แบบตาต่อต่าฟันต่อฟัน ก็ต้องสู้ด้วยเลือด คำถามคือกล้าพอไหม ผม,จตุพร,ณัฐวุฒิ ผ่านมาแล้ว ขอเรียนให้ทราบว่า คุณเป็นคนที่มีอนาคต เลิกมีอัตตาในตัวคุณเองหน่อย ใช้เหตุใช้ผล ถ้าถูดปลดจากหัวหน้าพรรค ก็ ใช้ส.ส. ทั้งหมดที่คุณมี ผลักดันพรรคในทิศทางที่ยืนบนอุดมการณ์ของตัวเอง ไปสู้ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ยืนอยู่ข้างชาวบ้าน สู้เรื่องแบนสารพิษ สู้เรื่องพลังงาน มันมีหลายเรื่องที่คุณทำได้ พวกนี้จะเปิดโอกาสให้คุณสร้างฐานทางการเมืองไปเรื่อยๆ แล้ววันหนึ่งรัฐบาลจะยุบสภา วันนั้นคุณจะเป็นเสียงใหญ่ในการตั้งรัฐบาล วันนี้คุณกำลังเดินเข้ากับดักหลุมพรางที่เขาวางเอาไว้ แล้วจุดนั้นคุณจะต้องตายด้วยปากของคุณ และตายด้วยวิธีการของคุณ”