กพช.เคาะเกณฑ์โรงไฟฟ้าชุมชน ปีหน้ารับซื้อ 700 เมกะวัตต์ สั่งศึกษาค่าไฟภาคขนส่งรับอีวีบูม

กพช.เคาะเกณฑ์โรงไฟฟ้าชุมชน ปีหน้ารับซื้อ 700 เมกะวัตต์ สั่งศึกษาค่าไฟภาคขนส่งรับอีวีบูม

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เห็นชอบหลักเกณฑ์การรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน และราคารับซื้อไฟฟ้าสำหรับผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมาก หรือวีเอสพีพี ของโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก โดยในปี 2563 จะเปิดรับซื้อไฟฟ้า 700 เมกะวัตต์ มั่นใจจะสร้างรายได้และช่วยลดภาระค่าไฟฟ้าของชุมชน โดยประเภทของโรงไฟฟ้าชุมชน กำหนดออกเป็น 4 ประเภท คือ โรงไฟฟ้าประเภทเชื้อเพลิงชีวมวล ,ก๊าซชีวภาพ (น้ำเสีย/ของเสีย) ,ก๊าซชีวภาพ (พืชพลังงาน) และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ไฮบริด รูปแบบการร่วมทุน มี 2 กลุ่ม คือกลุ่มผู้เสนอโครงการ (ภาคเอกชนอาจร่วมกับองค์กรของรัฐ) สัดส่วนประมาณ 60 – 90% และกลุ่มวิสาหกิจชุมชน (มีสมาชิกไม่น้อยกว่า 200 ครัวเรือน) สัดส่วนประมาณ 10 – 40% และเปิดโอกาสให้ซื้อหุ้นเพิ่มได้รวมแล้วไม่เกิน 40%

นายสนธิรัตน์กล่าวว่า การกำหนดวันจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ แบ่งออกเป็น 2 โครงการ คือโครงการเร่งด่วน หรือควิกวิน เป็นโครงการที่ให้จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบภายในปี 2563 เปิดโอกาสให้โรงไฟฟ้าที่ก่อสร้างแล้วเสร็จหรือใกล้จะแล้วเสร็จเข้าร่วมโครงการ อีกโครงการจะเปิดโอกาสให้ผู้มีความประสงค์ทั่วไป อนุญาตให้จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบได้ในปี 2564 มีปริมาณพลังไฟฟ้าที่เสนอขายไม่เกิน 10 เมกกะวัตต์

นายสนธิรัตน์กล่าวว่า ด้านราคารับซื้อไฟฟ้ายึดตามมติกพช.เมื่อ 17 กุมภาพันธ์ 2560 คือ พลังงานแสงอาทิตย์ 2.90 บาท ชีวมวลที่กำลังผลิตติดตั้งน้อยกว่าหรือเท่ากับ 3 เมกะวัตต์ 4.8482 บาท ชีวมวลกำลังผลิตติดตั้งมากกว่า 3 เมกะวัตต์ 4.2636 บาท ก๊าซชีวภาพ(น้ำเสีย/ของเสีย) 3.76 บาท ก๊าซชีวภาพ(พืชพลังงาน 100%) 5.3725 บาท ก๊าซชีวภาพพืชพลังงานผสมน้ำเสีย/ของเสีย 4.7269 บาท รวมทั้งกำหนดฟีดอินทารีฟ หรือเอฟไอทีพรีเมี่ยมให้กับพื้นที่พิเศษที่อยู่ในจังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส และ 4 อำเภอ ของจังหวัดสงขลา เพิ่มอีก 0.50 บาทต่อหน่วยในทุกชนิดเชื้อเพลิง

นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ที่ประชุมกพช.ยังสั่งให้ไปศึกษาอัตราค่าไฟฟ้าแยกออกมาเป็นภาคการขนส่งโดยเฉพาะ ครอบคลุมทั้งรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า รถยนต์ไฟฟ้า รถโดยสารสาธารณะไฟฟ้า รถไฟฟ้าทั้งบนดิน และใต้ดิน และรถไฟฟ้าความเร็วสูง เพราะเดิมทีการคิดอัตราค่าไฟฟ้าจะคิดในราคาเดียวกับภาคอุตสาหกรรม แต่ภาคขนส่งยังไม่เคยมีการคิดแยกออกมา ดังนั้นจึงจำเป็นต้องศึกษาให้ชัดเจน โดยมีเป้าหมายว่าการคิดราคาออกมานั้นจะส่งผลไปถึงอัตราค่าโดยสารต่างๆ ที่ประชาชนจะต้องจ่ายมีราคาลดลง โดยการศึกษานั้นจะต้องเสร็จสิ้นภายใน 2 เดือน