ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวในพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ว่ายังเกิดแรงกระเพื่อมภายในพรรค หลังจากกรณีที่มีส.ส.พรรคจำนวนหนึ่ง ไปลงมติสนับสนุนญัตติตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญเพื่อศึกษาผลกระทบจากการกระทำประกาศและคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และการใช้อำนาจของหัวหน้าคสช. ตามมาตรา 44 ขณะที่พรรคร่วมรัฐบาลมีข้อตกลงร่วมกันว่าไม่ให้มีการตั้งกมธ.ดังกล่าว ซึ่งส่งผลให้พรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลต้องทำตามข้อตกลงนี้ ซึ่งเหตุการณ์ลงมติสวนทางนั้น ทำให้ผู้ใหญ่และแกนนำของพรรคหารือถึงแนวทางป้องกันหรือแก้ปัญหาไม่ให้เกิดเช่นนี้อีก มิฉะนั้นอาจมีส.ส.ของพรรคโหวตสวนทางเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ซึ่งจะส่งผลต่อสถานะพรรคร่วมรัฐบาล

ทั้งนี้ มีผู้เสนอว่าควรมีบทลงโทษส.ส.ที่ไม่ทำตามมติพรรค ซึ่งโทษสูงสุดคือการไม่ส่งบุคคลนั้นลงสมัครรับเลือกตั้งอีกในการเลือกตั้งครั้งหน้า อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์จะมีการประชุมกันในวันที่ 27 ธันวาคมนี้ ซึ่งจะมีการหยิบยกเรื่องนี้มาหารือ ขณะเดียวกัน พรรคประชาธิปัตย์จะมีการประชุมส.ส.ในวันที่ 10 ธันวาคมนี้ เวลา 13.00 น. คาดว่าผู้บริหารพรรคจะมีการกำชับส.ส.ถึงการทำตามมติพรรค พร้อมตักเตือนคนที่เคยลงมติสวนทางหรือคนที่ชอบให้ข่าวที่เป็นการแสดงความเห็นทางการเมืองแบรายวัน

อย่างไรก็ตามขณะเดียวกัน เกิดการโต้เถียงกันในไลน์กลุ่มอดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (9 ธ.ค.) โดยนายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) ส่งข้อความในไลน์กลุ่มว่าพรรคจะต้องมีมาตรการลงโทษทางวินัยต่อส.ส.ที่ไม่ทำตามมติพรรค แต่มีส.ส.บางคนออกมาตอบโต้นายอลงกรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ลงมติสนับสนุนให้ตั้งกมธ.วิสามัญดังกล่าว ได้ส่งข้อความในไลน์กลุ่ม ยืนยันว่าตนได้ทำสิ่งที่ถูกต้องแล้วเพราะ ส.ส.ประชาธิปัตย์เป็นผู้เสนอญัตตินี้ ส่งผลให้เกิดการโต้เถียงกันต่อ จนถึงขั้นที่นายอลงกรณ์ท้าให้นายเทพไทไปเจอกันที่พรรคประชาธิปัตย์ เวลา 13.00 น. แต่ปรากฏว่าเมื่อถึงเวลาดังกล่าว กลับไม่มีการพบกันระหว่างนายอลงกรณ์และนายเทพไทแต่อย่างใด