“สุเทพ” ลั่นไม่ขวางฝ่ายแก้ไข ยันศรัทธารธน. 60 ไร้ข้อบกพร่อง

วันที่ 10 พฤศจิกายน 2562 ที่อาคารทูแปซิฟิคเพลส ถนนสุขุมวิท นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย(มปท.) ให้สัมภาษณ์ถึงความเคลื่อนไหวในการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า จุดยืนของตนยังชัดเจนว่า สนับสนุนรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน เพราะเป็นผู้รณรงค์ให้ประชาชนรับร่างรัฐธรรมนูญ และเป็น 1 ใน 16 ล้านคนที่ลงประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญ ส่วนตัวยังมองไม่เห็นความบกพร่องของรัฐธรรมนูญ แต่เห็นถึงความบกพร่องของคนมากกว่า และยังคงศรัทธาในหลักการของรัฐธรรมนูญ เพราะเป็นคุณเป็นประโยชน์ต่อประเทศ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะแก้ไขไม่ได้ ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายมองว่าประเด็นที่มาและอำนาจหน้าที่ของส.ว.เป็นอุปสรรคต่อประชาธิปไตยนั้น อย่ามองเพียงแค่ส.ว.ชุดปัจจุบัน เพราะเป็นข้อยกเว้นช่วง 5 ปีแรกในรัฐธรรมนูญ แต่ในหลักการบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับส.ว.เขาเขียนไว้ดีแล้ว ทั้งนี้ส่วนตัวเคารพการตัดสินใจ แต่อยากจะได้ยินว่าประเด็นอะไรที่ติดขัด ซึ่งบางประเด็นที่จะมีการแก้ไขในบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับราชอาณาจักรไทย ที่จะต้องเป็นอันหนึ่งอันเดียว แบ่งแยกไม่ได้ หรือประเด็นที่เสนอให้เป็นมลรัฐนั้น หากมีการเสนอแก้ไขแบบนั้นตนไม่เอาด้วย

นายสุเทพ กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)มีมติเสนอชื่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าปชป. เป็นประธานกมธ.วิสามัญศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่ขอแสดงความเห็นเพราะเป็นเรื่องของสมาชิกรัฐสภา ส่วนตัวไม่ได้ขัดข้องหากใครจะมาเป็นประธานกมธ. เพราะเป็นคนนอกสภาฯ แต่ให้ความสนใจเนื้อหาสาระที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญมากกว่า ส่วนคุณสมบัติของผู้ที่จะมาเป็นประธานกมธ.นั้น ต้องมีความเป็นกลาง ไม่สนับสนุนหรือคัดค้านรัฐธรรมนูญมาตั้งแต่ต้น เช่น ตน ถือว่าไม่เหมาะสม เพราะเป็นคนที่สนับสนุนรัฐธรรมนูญสุดลิ่มทิ่มประตูฉบับนี้มา ดังนั้นควรจะเป็นคนที่กลางๆ ไม่ทางใดทางหนึ่งจึงจะมีความเหมาะสมกว่า อย่างไรก็ตามยังไม่มีชื่อบุคคลใดบุคคลหนึ่งอยู่ในใจ ส่วนกรณีที่นายอภิสิทธิ์คัดค้านรัฐธรรมนูญฉบับนี้มาตั้งแต่ต้นนั้น ไม่ขอพูดถึงนายอภิสิทธิ์ ขอสื่อมวลชนว่าอย่าพยายามเอาไปชนกับนายอภิสิทธิ์ แต่หากได้คนที่มีความเป็นกลาง จะได้มุมมองการแก้ไขและธรรมนูญที่กว้างพอที่จะรับฟังความเห็นของคนอื่นได้มากขึ้น

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีชื่อนายมีชัย ฤชุพันธ์ และนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อยู่ในสัดส่วนคนนอกด้วยนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า อย่าหวั่นไหวกับข่าว เชื่อว่าหลังจากนี้จะยังคงปรากฏชื่ออีกหลายบุคคล ทั้งนี้ยังมั่นใจว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้จะไม่ใช่ชนวนความขัดแย้งครั้งใหม่ เพราะเชื่อว่าประชาชนอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงของประเทศที่ดีขึ้น และหลายคนคงไม่เสียเวลากลับไปสู่วังวนความขัดแย้งอีกครั้ง นอกจากนี้มีรัชกาลที่ 10 เป็นศูนย์รวมให้คนไทยรวมพลังและเดินไปข้างหน้าด้วยกันได้