วันที่ 25 ตุลาคม 2562 สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯได้ทบทวนที่มาของการสืบสวนกรณีรัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯเมื่อปี 2016 และให้มีการสืบสวนคดีทางอาญาแล้ว โดยเรื่องดังกล่าวถูกรายงานครั้งแรกผ่านนิวยอร์กไทม์ส เมื่อนายวิลเลี่ยม บาร์ อัยการกลางสหรัฐฯ เริ่มการทบทวนการสืบสวนคดีเมื่อช่วงต้นปี

ด้านฝ่ายเดโมแครตและอดีตจนท.ที่เกี่ยวข้องกล่าวว่า นายบาร์กำลังใช้กระทรวงยุติธรรมในการล่าติดตามทฤษฎีสมรู้ร่วมคิดที่เลื่อนลอยซึ่งจะเอื้อประโยชน์ให้ฝ่ายนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯและลดทอนการสืบสวนของนายโรเบิร์ต มูลเลอร์ อดีตที่ปรึกษาพิเศษ โดยในการส่วนของการสืบสวน นายบาร์ได้ร้องขอความช่วยเหลือกับหน่วยงานด้านยุติธรรมของออสเตรเลียและอังกฤษ และได้เดินทางเยือนอิตาลีเพื่อพบกับหน่วยข่าวกรองถึง 2 ครั้งเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับคนที่ถูกอ้างถึงในรายงานสืบสวนของมูลเลอร์

ก่อนหน้านี้ รายงานสืบสวนของมูลเลอร์ระบุว่า พบความเกี่ยวข้องกับรัสเซียในการแทรกแซงการเลือกตั้งปี 2016 เพื่อช่วยเหลือนายทรัมป์ให้ได้เป็นประธานาธิบดี จนนำไปสู่การดำเนินคดีกับอดีตผู้ช่วยทีมหาเสียงหลายคน แต่นายมูลเลอร์สรุปว่ายังไม่มีหลักฐานมากพอที่จะมัดตัวได้ว่ารัสเซียสมรู้ร่วมคิดกับการกระทำผิดนี้

นอกจากนี้ นายบาร์ ได้มอบหมายให้นายจอห์น เดอร์แฮม อัยการรัฐคอนเนคติกัท เป็นผู้นำการทบทวนการสืบสวนว่า หน่วยข่าวกรองและฝ่ายยุติธรรมสหรัฐฯ ดำเนินการอย่างถูกต้องในตรวจสอบความสัมพันธ์ที่เป็นไปได้ระหว่างนายทรัมป์กับรัสเซียหรือไม่

ทั้งนี้ นายทรัมป์เคยได้วิพากษ์วิจารณ์รายงานสืบสวนของมูลเลอร์ว่าเป็นการล่าแม่มดและกุเรื่อง และหน่วยงานของสหรัฐฯเปิดการสืบสวนเพื่อมุ่งบั่นทอนโอกาสคว้าชัยในการนั่งเป็นประธานาธิบดี ซึ่งเป็นการกล่าวหาที่แม้แต่นายทรัมป์หรือผู้สนับสนุนก็ไม่มีหลักฐานพิสูจน์ได้