‘ธรรมนัส’ฟุ้งแก้หนี้นอกระบบ ประสบความสำเร็จ ยกพิจิตร จังหวัดนำร่อง

เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ที่ศูนย์ประชุมแฮปปี้พลาซ่า คอนเวลชั่นฮออล์ จังหวัดพิจิตร ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีการลงนามความร่วมมือ( MOU) ระหว่างผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ธกส. ผู้แทนกลุ่มเกษตรกรนาแปลงใหญ่ ผู้ส่งออก และผู้รับซื้อจากต่างประเทศ โครงการส่งเสริมชาวนาหันมาปลูกข้าวสายพันธ์ กข.79 เพื่อการส่งออกไปจำหน่ายในตลาดต่างประเทศ (สาธารณรัฐประชาชนจีน) โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์สนับสนุนเมล็ดพันธ์ข้าว กข.79 ที่ได้คุณภาพมาตรฐานผ่านการรับรองคุณภาพจากกรมการข้าว และธนาคาร ธกส.จังหวัดพิจิตรสนับสนุนวงเงินสินเชื่อให้กับชาวนา ที่สมัครใจเข้าร่วมโครงการภายใต้เงื่อนไขหลักการตลาดนำการผลิต

เนื่องจากข้าวเปลือกสายพันธ์ดังกล่าวมีลักษณะคุณภาพข้าวคล้ายกับข้าวหอมมะลิ ซึ่งมีลักษณะอ่อนนิ่มและชวนรับประทาน ทำให้เป็นที่ถูกใจผู้บริโภคชาวจีน โดยในปีนี้จึงมีออเดอร์คำสั่งซื้อผลผลิตจำนวน 6 หมื่นตัน และในปีถัดไปไม่น้อยกว่า 1 แสนตันต่อไร่ โดยให้ราคารับซื้อผลผลิตที่ตันละ 7 พันบาท และที่สำคัญข้าวสายพันธ์ กข.79 เป็นข้าวให้ผลผลิต 1 พัน 2 ร้อยกิโลกรัมต่อไร่ ซึ่งให้ผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่สูงกว่าข้าวสายพันธ์ ขณะที่ต้นทุนการทำนาเฉลี่ยเพียง 2 พันบาทต่อไร่ ทำให้ชาวนาจะมีกำไรเหลือจากการปลูกและขายข้าวสายพันธ์ดังกล่าวเฉลี่ย 5 พันบาทต่อไร่ ซึ่งจะเป็นผลดีที่จะทำให้ชาวนาในพื้นที่จังหวัดพิจิตร มีคุณภาพชีวิตที่ดีมีรายได้ที่ดี มั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืนตามนโยบายรัฐ ตลอดจนจะเป็นการสร้างรายได้จากการทำนาปลูกข้าวในระยะยาว ที่จะช่วยเหลือให้ชาวนาไม่ต้องไปพึ่งแหล่งทุนสินเชื่อเงินกู้นอกระบบ ที่ต้องเสียดอกเบี้ยสูงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด นอกจากนี้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ยังได้มอบโฉนดที่ดินทำกินให้กับประชาชนจำนวน 5 ราย

ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์การเกษตร กล่าวว่าปัญหาหนี้นอกระบบของเกษตรกรนับว่าเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศ ซึ่งรัฐบาลได้สนับสนุนส่งเสริมให้แก้ปัญหาดังกล่าวเป็นวาระสำคัญ ซึ่งในลดปัญหาหนี้นอกระบบของเกษตรกรที่จังหวัดพิจิตร นับว่าประสบความสำเร็จเป็นจังหวัดนำร่องโดยให้เกษตรกรรวมกลุ่มทำเกษตรแปลงใหญ่โดยเฉพาะการทำนาปลูกข้าวสายพันธุ์ กข.79 ซึ่งสายพันธุ์ดังกล่าวทนแล้ง ทนโรค และให้ผลผลิตที่สูง ตลาดต่างประเทศต้องการ เมื่อเกษตรกรปลูกข้าวด้วยการรวมกลุ่มสามารถต่อรองราคาในตลาดได้ทำให้ปลดหนี้ได้