คลังเผยชิมช้อปใช้แรงไม่หยุดติดแฮชแท็กทวิตเตอร์อันดับ 1 เปิดให้ร้านค้าสมัครเข้าร่วมโครงการ 1 พ.ย.นี้

นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี (ปฎิบัติงานกระทรวงการคลัง) เปิดเผยว่า ขณะนี้โครงการ ชิมช้อปใช้เฟส 2 ซึ่งเปิดให้ลงทะเบียนผ่าน www.ชิมช้อปใช้.com 2 วันแรก (24-25 ตุลาคม) พบว่ามีกระแสแรงไม่หยุด ติดแฮชแท็กทวิตเตอร์อันดับ 1  ส่วนประชาชนลงทะเบียนคึกคัก ล่าสุดครบ 1.5 ล้านคนแล้ว ซึ่งการเปิดให้ลงทะเบียน 3 รอบ ที่ผ่านมาเต็ม 5 แสนคนทุกรอบ และคาดว่าการลงทะเบียนรอบ 4 ช่วงเย็นวันที่ 25 ตุลาคมคาดว่าจะเต็มจำนวนอย่างรวดเร็วไม่ต่างกัน โดยในเฟส 2 กำหนดจำนวนผู้ลงทะเบียนไว้ทั้งหมด 3 ล้านราย

ทั้งนี้กระทรวงการคลังจะเปิดให้ร้านค้าสมัครเข้าร่วมโครงการใหม่อีกครั้งในวันที่ 1 พฤศจิกายน โดยผู้ประกอบการร้านค้า ทั้งรายใหญ่และรายย่อยจำนวนมาก ได้สอบถามเรื่องการสมัครร้านค้าเข้าร่วมโครงการชิมช้อปใช้ เฟสที่ 2 ว่ามีเงื่อนไขเปลี่ยนไปอย่างไร และสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการในเฟส 2 ได้เมื่อไร หลังจากกรมบัญชีกลางปิดการรับสมัครร้านค้าเข้าร่วมในเฟส 1 ไปแล้วเมื่อ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา จึงขอแจ้งผู้ประกอบการร้านค้าว่า ขณะนี้กรมบัญชีกลางอยู่ระหว่างปรับปรุงระบบและหลักเกณฑ์การรับสมัครใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.)

อย่างไรก็ตาม หากผู้ประกอบการรายใดมีความพร้อมในการสมัครเข้าร่วมโครงการ สามารถสมัครได้ที่กรมบัญชีกลางแต่ละจังหวัด ซึ่งจะเป็นการรับใบสมัครไว้ก่อน แล้วจะทำการบันทึกลงระบบในวันที่ 1 พฤศจิกายน เชื่อว่าในเฟส 2 จะมีผู้ประกอบการให้ความสนใจเข้าร่วมอีกเป็นจำนวนมาก เพราะมีการเปิดกว้างให้ผู้ประกอบการประเภทที่พัก โรงแรม รีสอร์ท รถเช่า เรือเช่า บริษัททัวร์ ที่เป็นรูปแบบบริษัทในเครือเดียวกันแต่มีสาขาอยู่ในหลายจังหวัด ก็สามารถเข้าร่วมได้ทุกจังหวัด จากเดิมที่กำหนดให้เลือกได้เพียงแค่จังหวัดเดียวเท่านั้น ที่สำคัญร้านค้าและผู้ประกอบการรายย่อยพอใจโครงการชิมช้อปใช้เฟส 1 มาก เนื่องจากสามารถเพิ่มยอดขายได้ 30-100% และไม่มีการตามเก็บภาษีเงินได้อย่างที่กังวลกัน ซึ่งจะขยายระยะเวลาการลงทะเบียนร้านค้าไปจนถึง 31 ธันวาคม

นายชาญกฤช กล่าวต่อว่า ล่าสุดกรมบัญชีกลางได้โอนเงินค่าสินค้าและบริการให้กับร้านค้าที่เข้าร่วมในเฟสแรกแล้วเป็นเงินรวม 9,006.1 ล้านบาท แบ่งเป็น เงินจากกระเป๋าที่ 1 จำนวน 8,800 ล้านบาท และจากกระเป๋าที่ 2 จำนวน 206.1 ล้านบาท แบ่งเป็นร้านชิม 1,313.4 ล้านบาท ร้านช้อป 5,007.5 ล้านบาท และร้านใช้ 124 ล้านบาท ส่วนร้านค้าทั่วไป จำนวน 2,561.1 ล้านบาท