“จิรายุ” ซัด โทรโข่งมือใหม่พปชร. ซัด รำไม่ดีโทษปี่โทษปู “บิ๊กตู่ บริหารชาติมา 6ปี กู้เงิน 2.5 ล้านล้าน ยังมีหน้ามาโทษว่า เป็นเพราะจำนำข้าว

เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีการอภิปรายงบประมาณปี 2563 ในวาระรับหลักการของฝ่ายค้าน ว่า จากผลโพล พบว่า ประชาชนชื่นชมฝ่ายค้านทำหน้าชำแหละงบประมาณแบบขาดดุลของรัฐบาล ได้โดนใจ มากถึง 72.5% และไม่มั่นใจในการใช้งบประมาณของฝ่ายรัฐบาล เนื่องจากชี้แจงไม่ชัดเจนหลายประเด็น โดยเฉพาะเรื่องการกู้เงินที่มีเป็นจำนวนมาก แต่รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐก็ยังเป็นพวกแผ่นเสียงตก ร่องอ้างเหตุผลว่า เหตุที่ต้องกู้เงินมากในพ.ร.บ.งบปรมาณปี 63 เพราะเอามาใช้หนี้จำนำข้าว ทั้งๆที่ผ่านมาแล้วเกือบ 6 ปี เป็น 6 ปีที่สะท้อนให้เห็นถึงความด้อยฝีมือของรัฐบาลตู่ 1ต่อเนื่องมาจนถึงตู่ 2 ที่สำคัญแม้จะผ่านรับหลักการในวาระ1มาแล้ว แต่ฝ่ายค้านก็ยังไม่วายออกมาโทษรัฐบาลก่อนหน้านี้ ซึ่งพยายามหาความชอบธรรมให้กับรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ในการกู้เงินจำนวนมหาศาล ทั้งๆรัฐบาลที่แล้วบริหารราชการแผ่นดินมากว่า 6ปี สร้างหนี้เป็นเงิน 2.2 ล้านล้านบาท แต่กลับทำเป็นตาถั่วมองไม่เห็น พอหาความดีให้ตัวเองไม่ได้ก็หันไปโทษรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตรใช่หรือไม่

นายจิรายุ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์บริหารประเทศผ่านมาแล้วเกือบ6ปีวันนี้ประชาชนจนจะตายกันหมดแล้ว เศรษฐกิจดิ่งเหว ดัชนีทุกตัวตกต่ำมีแต่ใช้งบประมาณแบบตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ แต่พลพรรคพลังประชารัฐยังใช้วิธีการเล่นการเมืองแบบน้ำเน่า จึงขอเรียกร้องให้พรรคพลังประชารัฐหันมาตอบสังคมว่า จะกู้เงินแบบนี้ต่อเนื่องไปอีกกี่ปี แล้วช่วยหารมต.ฝีมือดีๆมาโชว์ประชาชนว่า จะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่รวยกระจุกจนกระจาย คนฆ่าตัวตายเพราะพิษเศรษฐกิจกันทุกวันได้อย่างไรจะดีกว่า อีกทั้ง อยากแนะนำทีมโฆษกพลังประชารัฐ เวลาเป็นพรรคซีกรัฐบาล ถ้าจะด่าคนอื่นเพียงอย่างเดียวต้องที่แจ้งว่า จะทำความเชื่อมั่นและเศรษฐกิจให้ประชาชนกินดีอยู่ดีจะดีกว่า ขืนยังทำพฤติกรรมรำไม่ดีโทษปี่โทษปูระวังจะเป็นมูมเมอร์แรง เพราะการกล่าวหาเรื่องเงินใช้หนี้โครงการจำนำข้าว

“อย่านำเรื่องอดีตทั้งๆพลพรรคตัวเองมักออกมาพูดอยู่เสมอว่า อยากให้ประเทศก้าวไปข้างหน้า ไม่ควรจมอยู่กับอดีต และควรทำการเมืองแบบสร้างสรรค์ เพราะก่อนหน้ารัฐบาลยิ่งลักษณ์รัฐบาลอภิสิทธิ์ก็เป็นหนี้คงค้างนโยบายประกันราคาต่อมาเกือบ 3ปี แต่โดยมารยาททางการเมืองถือเป็นเรื่องปกติของการจัดทำนโยบาย เพราะถ้าเกิดรัฐบาลไหนทำกำไรกับเกษตรกรหรือหากำไรเรื่องสวัสดิการสังคมการศึกษาและการพยาบาลก็จะถือว่ารัฐบาลนั้นเป็นรัฐบาลเหล่าเหย่ และที่สำคัญรัฐบาลพรรคพลังประชารัฐก็จัดทำงบประมาณแบบขาดดุลเพื่อไปค้ำประกันราคาสินค้าการเกษตร แถมแจกเงินเป็นว่าเล่น ซึ่งก็เป็นเงินที่กู้มาทั้งสิ้น ทำแบบนี้รัฐบาลต่อไปเขาจะโทษได้บ้างหรือไม่ว่า เป็นเพราะรัฐบาลชุดที่แล้วตนอยากจะบอกทีมโทรโข่งมือใหม่ว่า โดยมารยาทเขาจะไม่พูดเรื่องนี้มาเล่นเป็นประเด็นทางการเมือง โดยเฉพาะคนที่มีความรู้ทางด้านการเมืองและการบริหารราชการแผ่นดิน”นายจิรายุ กล่าว