จีนแจงคลิปนักโทษมุสลิมอุยกูร์ ปิดตา-มัดมือ ส่งเข้า “ค่ายกักกัน” เป็นเรื่องปกติ

เมื่อวานนี้ (7 ตุลาคม 2562) เดลีเมล รายงานความคืบหน้าประเด็นสิทธิมนุษยชนชาวมุสลิมในจีนจากคลิปวิดีโอนักโทษชาวจีนมุสลิมหลายร้อยคนซึ่งถูกใส่กุญแจมือและปิดตาก่อนจะถูกขนย้ายไปศูนย์การศึกษาใหม่ ล่าสุด ทางการจีนออกมาอ้างว่า “เป็นเรื่องปกติตามกระบวนการยุติธรรม”

คลิปวิดีโอบันทึกจากโดรนและเผยแพร่ทางยูทูบแชนแนล Fear on War เมื่อเดือนที่แล้ว เผยนักโทษจำนวนมากซึ่งถูกนำตัวออกจากรถไฟและนั่งเป็นแถวบนพื้นชานชาลาสถานีรถไฟ โดยมีเจ้าหน้าที่หน่วยอาวุธและยุทธวิธีพิเศษ (SWAT) หลายสิบนายคอยเฝ้า

ทั้งหมดอยู่ในสภาพถูกโกนศีรษะ มีผ้าปิดตา และใส่กุญแจมือ อีกทั้ง สวมเสื้อกั๊กสีม่วง ด้านหลังเสื้อมีข้อความ “ศูนย์กักกันคัชการ์” และคาดว่านักโทษหลายคนเป็นชนกลุ่มน้อยชาวอุยกูร์

ข้อความใต้คลิปวิดีโออธิบายด้วยว่า บันทึกมาจากเขตปกครองตนเองชนกลุ่มน้อยมองโกลปายิงกัวเหลิง ทางใต้ของเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน แม้ว่าคลิปวิดีโอดังกล่าวจะยังไม่ได้รับการตรวจสอบความถูกต้อง แต่เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกาเชื่อว่าเป็นของจริง

ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า เจ้าหน้าที่ข่าวกรองตะวันตกนายหนึ่งระบุว่า คลิปดังกล่าวเป็นของจริง โดยสามารถตรวจสอบการขนย้ายนักโทษ 500 คน จากเมืองคัชการ์ไปเมืองคอร์ลาได้ก่อนหน้านี้ในปีเดียวกัน และทั้งสองเมืองอยู่ในเขตปกครองตนเองชนกลุ่มน้อยมองโกลปายิงกัว

ซึ่งสอดคล้องกับรายงานของ สกายนิวส์ จากแหล่งข่าวความมั่นคงยุโรปที่อ้างว่า คลิปดังกล่าวเป็นของจริงเช่นกัน ซึ่งปรากฏนักโทษมุสลิมอุยกูร์ถึง 600 คน ถูกขนย้ายก่อนหน้านี้ในปีเดียวกัน เป็นวิธีปกติที่ทางการจีนขนย้ายนักโทษประเภทนี้

ด้าน นาธาน รูเซอร์ นักวิจัยจากสถาบันนโยบายยุทธศาสตร์ออสเตรเลีย ให้ความเห็นส่วนตัวทางทวิตเตอร์ว่า จากการวิเคราะห์ คลิปดังกล่าวน่าจะถ่ายจากสถานีรถไฟคอร์ลาตะวันตกในเมืองคอร์ลาเอง

ขณะที่ฮิวแมนไรต์สวอตซ์ของสหรัฐระบุว่า คลิปดังกล่าวแสดงการละเมิดสิทธิมนุษยชนขนานใหญ่ต่อชาวอุยกูร์จากรัฐบาลจีน พร้อมเรียกร้องการสอบสวนการอย่างอิสระต่อการที่จีนปฏิบัติต่อชาวมุสลิมในประเทศ

อย่างไรก็ตาม ทางการเขตซินเจียงอุยกูร์ชี้แจงในแถลงการณ์ผ่านซีเอ็นเอ็นว่า การขนย้ายนักโทษโดยเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องทำตามกระบวนการยุติธรรมปกติ การปราบปรามอาชญากรรมตามกฎหมายเป็นเรื่องปกติของทุกประเทศ และเสริมว่า การปราบปรามอาชญากรรมของเขตซินเจียงอุยกูร์ไม่เคยเชื่อมโยงกับชาติพันธุ์หรือศาสนา

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายไมก์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ประณามรัฐบาลจีนต่อการปฏิบัติต่อชาวมุสลิมอุยกูร์ และก่อนหน้านี้เคยเรียกการปฏิบัติชนกลุ่มน้อยชายอุยกูร์ใน “คราบเลวร้ายที่สุดในโลก” แต่ นางหัว ชุนหยิง โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน ตอบโต้คำพูดของนายพอมเพโอว่า “โกหก”