“วิษณุ” ยกรัฐธรรมนูญมาตรา 142 แหล่งที่มาของเงินทำนโยบาย จะแสดงในร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ไม่ใช่พูดในวันแถลงนโยบายรัฐบาล เผย พิจารณาพ.ร.บ.งบในสภาฯ 4 วัน แบ่งส.ส.-ส.ว. ฝั่งละ 2

เมื่อวันที่ 19 กันยายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ว่า ฝ่ายที่เกี่ยวข้องทำกันใกล้จะเสร็จแล้ว ตอนนี้สภาฯปิดแล้ว และวันที่ 17 ตุลาคม จะเปิดการประชุมสภาฯสมัยวิสามัญเพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 เป็นเวลา 4 วัน โดยสภาผู้แทนราษฎรจะใช้ 2 วัน และวุฒิสภาใช้ 2 วัน ซึ่งเรื่องนี้มีปฏิทินอยู่แล้ว และในสัปดาห์หน้านายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปราชการต่างประเทศ หลังจากกลับมา นายกฯอาจได้ดูร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ครั้งสุดท้ายก่อนนำเข้าสู่คณะรัฐมนตรี(ครม.)และส่งสภาฯ

นายวิษณุ กล่าวต่อว่า เรื่องนี้ผู้ที่ร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ คงไม่ต้องมาปรึกษาอะไรตน เพราะกรอบในการทำงบประมาณฯ ระบุอยู่ในมาตรา 142 ของรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณฉบับใหม่ รวมถึง พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังแล้ว ซึ่งสมัยก่อนไม่มี แต่เดี๋ยวนี้มันมีและต้องดูให้เป็นไปตามกรอบนั้น เช่นที่มาของรายได้ที่จะนำไปใช้ในโครงการต่างๆ ฝ่ายค้านยกเอามาตรา 162 ของรัฐธรรมนูญขึ้นมา แต่ความจริงมาตรา 142 ของรัฐธรรมนูญระบุไว้ว่า พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายฯ ต้องแสดงแหล่งที่มาของรายได้ ซึ่งตรงนี้จะนำเข้ามาพิจารณาในเดือนหน้าที่จะมีการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ในสภา ซึ่งขั้นตอนนี้เองที่ต้องแสดงรายละเอียดกัน แต่ในนโยบายที่รัฐบาลแถลงต่อรัฐสภาที่ผ่านมานั้น ไม่สามารถไปลงรายละเอียดอะไรได้