‘พิชัย’ ท้า ‘บิ๊กตู่’ ออกทีวีพิสูจน์รู้จริงทางเศรษฐกิจ ท้วง ‘อุตตม’ เป็นไปไม่ได้ปีนี้โต 3.5% แนะพูดให้น้อย

เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวถึงสถานการณ์สงครามการค้าสหรัฐและจีนที่ทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ว่า จะส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยอย่างมาก อีกทั้ง สถานการณ์ในฮ่องกงอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของความถดถอยของเศรษฐกิจโลก ซึ่ง Inverted Yield Curve เป็นสัญญาณอันตายที่แสดงว่า โลกอาจจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้

นายพิชัย กล่าวว่า ดังนั้นประเทศไทยจึงต้องเตรียมความพร้อมและหาบุคคลากรที่รู้เรื่องเศรษฐกิจจริงเข้ามา บริหาร หลังจากที่เศรษฐกิจไทยตกต่ำมา 5 ปี

“ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ได้ยืนยันว่ารู้เรื่องเศรษฐกิจเป็นอย่างดี พร้อมกับพูดถึงการปฏิวัติอุตสาหกรรม และ ในระยะยาวต้องมีการลงทุน ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ อาจไม่ทราบว่า การปฏิวัติอุตสาหกรรมนี้เกิดขึ้นในปี ค.ศ.1760-1850 หรือ 169-259 ปีมาแล้ว ในสมัยที่ เจมส์ วัตต์ คิดค้นกลจักรไอน้ำได้ ซึ่งน่าจะเป็นการพูดเรื่องที่ยัอนยุคอย่างมาก ดังนั้น จึงขอแนะนำว่า ปัจจุบันนายกฯ จะต้องศึกษาและเข้าใจดีในเรื่องดังนี้ เช่น Disruption, Inverted Yield Curve, Libra, 0% interest 30 years German bond, Hong Kong impact ฯลฯ” นายพิชัย กล่าวและว่า หาก พล.อ.ประยุทธ์ มั่นใจว่ารู้เรื่องเศรษฐกิจดี ตนจะขอสัมภาษณ์ พล.อ.ประยุทธ์ ออกอากาศช่องไหนก็ได้ และจะส่งคำถามให้ก่อนเพื่อเตรียมตัว

นอกจากนี้ นายพิชัย กล่าวว่า การที่ พล.อ.ประยุทธ์ แสดงความรู้และเข้าใจดีว่าในระยะยาวประเทศต้องมีการลงทุนเพื่อพัฒนา อยากถามว่า 5 ปีที่ผ่านมา เหตุใดการลงทุนไทยหดหาย เศรษฐกิจไทยย่ำแย่ ขยายได้เพียงร้อยละ 2.3 เท่านั้น ทั้งๆ ที่เศรษฐกิจโลกยังไม่เข้าสู่ภาวะถดถอย

“หากเศรษฐกิจโลกถดถอยจริง เศรษฐกิจไทยจะยิ่งย่ำแย่ขนาดไหน ไม่อยากจะนึกเลย เพราะทุกวันนี้ก็มีข่าวว่าคนไทยฆ่าตัวตายจากพิษเศรษฐกิจกันแทบทุกวันแล้ว ที่น่ากังวลยิ่งไปอีก คือ การที่ นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่คิดว่าจะพอรู้เศรษฐกิจบ้าง กลับกล้าโม้ว่าจากมาตรการรัฐบาลจะทำให้เศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายได้ถึงร้อยละ 3.5 ซึ่งขอยืนยันว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะเศรษฐกิจไทยครึ่งปีแรกขยายตัวได้เพียงร้อยละ 2.6 เท่านั้น ถ้าปีนี้จะขยายถึงร้อยละ 3.5 ครึ่งปีหลังต้องขยายถึงร้อยละ 4.4 ซึ่งไม่น่าจะเป็นไปได้ในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้” นายพิชัย กล่าว

อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า หากนายอุตตมมั่นใจว่าสามารถทำได้อย่างที่พูด ก็ควรจะรับผิดชอบด้วยตำแหน่ง ซึ่งมั่นใจว่าหากเดิมพันด้วยตำแหน่ง ประเทศไทยได้เปลี่ยนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ปลายปีนี้แน่นอน หรือแค่ประกาศไตรมาส 3 ก็จะรู้แล้วว่าไม่มีทาง ซึ่งหากนายอุตตมสามารถทำได้จริง จะไม่วิจารณ์นายอุตตมอีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจหรือคดีธนาคารกรุงไทย

“ในภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ ขยายตัวได้ร้อยละ 2.3 คนที่ฉลาดและรู้เศรษฐกิจบ้างจะพูดน้อยๆ หรือไม่พูดเลย ดังจะเห็นได้ว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ หลังจากโยนเศรษฐกิจแย่ๆ ให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ก็เก็บตัวเงียบ และพูดน้อยมาก ดังนั้น จึงอยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ดูนายสมคิดเป็นตัวอย่าง ซึ่งได้แนะนำ พล.อ.ประยุทธ์ ก่อนหน้านี้แล้วว่า ถ้าไม่รู้จริง ไม่ควรพูด เพราะจะยิ่งแสดงความไม่รู้มากยิ่งขึ้น” นายพิชัย กล่าว