“เพื่อไทย” ใจกว้าง ยินดีหากรบ.จะนำนโยบายฝ่ายค้านไปใช้ แต่ขอให้ใช้อย่างเข้าใจ

“ภูมิธรรม” บอก ยินดีให้ รบ. ใช้นโยบาย แต่ขอให้นำไปใช้อย่างเข้าใจ-ตรงวัตถุประสงค์ ลั่น ฝ่ายค้านมีหน้าที่แนะนำรบ.อยู่แล้ว

เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรค พท. ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมใหญ่วิสามัญครั้งที่ 1 ประจำปี 62 ของพรรค พท. ว่า สาระสำคัญคือการเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ สืบเนื่องจาก พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ อดีตหัวหน้าพรรคได้ยื่นลาออกเพื่อเปิดโอกาสให้พรรคได้พิจารณาคัดเลือกกรรมการบริหารพรรคให้เหมาะสมกับหน้าที่ และการทำงานในขณะนี้ และเพื่อเลือกหัวหน้าพรรคที่เป็น ส.ส. เข้าไปทำหน้าที่ที่สมบูรณ์ โดยขั้นตอนวันนี้ คณะกรรมการบริหารชุดรักษาการได้เรียกประชุม โดยองค์ประชุมประกอบด้วยคณะกรรมการบริหารพรรคชุดปัจจุบันที่ต้องมาเกินกึ่งหนึ่ง ตัวแทนพรรคจาก 4 ภาค และ 76 จังหวัด ส.ส. 136 คน สมาชิกพรรค และอดีตรัฐมนตรี รวมทั้งสิ้นต้องเกิน 250 คน

เมื่อถามถึงที่กรณีรัฐบาลจะนำเอานโยบายของฝ่ายค้านไปใช้ทำเป็นนโยบาย นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนว่าเป็นเรื่องดี ในฐานะพรรคการเมืองที่มีโอกาสเป็นรัฐบาลไม่ควรรังเกียจเดียดฉันท์นโยบายของใคร นโยบายใดที่สามารถแก้ปัญหาให้กับประชาชนได้ หรือถูกใจประชาชน หากนำไปทำถือว่าเป็นเรื่องดี ไม่ต้องเหนียมอาย ไม่ต้องรู้สึกว่าเป็นของฝ่ายค้านถ้ามีจิตใจรู้สึกว่าอยากทำงานให้ประชาชน แต่หวังว่าจะนำไปทำอย่างเข้าใจ ไม่ใช่ทำเพราะเพื่อให้เป็นรูปแบบว่าได้ร่วมมือกับฝ่ายค้าน แต่ต้องทำให้ตรงตามเจตนารมณ์ของผู้คิด และแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนได้

เมื่อถามว่า หากรัฐบาลมาขอคำปรึกษาพร้อมที่จะให้หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ฝ่ายค้านก็มีหน้าที่แนะนำรัฐบาลอยู่แล้ว ซึ่งฝ่ายค้านในยุคของเราตั้งใจว่า เราจะไม่เป็นฝ่ายค้านที่ใช้แต่วาทะกรรมเอามาทำลายหรือโต้แย้งกัน แต่คิดว่าบทบาทของ 7 พรรคฝ่ายค้านเราเรื่มด้วยการร่วมมือกัน ไม่แย่งตำแหน่งกัน อะไรที่เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ไม่อยู่ในหลักการ และแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนได้ เราจะทำหน้าที่เสนอแนะ และชี้แจง อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจะต้องปรับตัว เพราะที่ผ่านมาเคยชินกับการทำงานที่ไม่มีฝ่ายค้าน และจัดตั้งสภาที่มาสนับสนุนรัฐบาลฝ่ายเดียว ตนมองว่าดีในเรื่องประสิทธิภาพที่อยากทำอะไรก็ได้ แต่ไม่ดีตรงที่ไม่มีระบบตรวจสอบถ่วงดุลซึ่งจะทำให้เกิดปัญหา และการที่นายกฯพูดว่าจะมีการมาล้มล้างรัฐบาลในสภา ไม่เชื่อที่เราจะมาล้มล้างอะไร ทำดีเราก็สนับสนุน ทำไม่ดีเราก็ต้องท้วงติงเป็นธรรมดา ดังนั้น การปฏิเสธ หรือการคัดค้านรับบาล รวมไปถึงการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ล้วนเป็นวิถีทางประชาธิปไตย ดังนั้น ต้องเข้าใจในสิ่งนี้ อย่าใช้การตรวจสอบ หรือการอภิปรายมาพูดให้เหมือนว่าแต่ละฝ่ายในสภาทำหน้าที่เพียงแค่ต้องการมาล้มล้างรัฐบาล เพราะเรื่องทั้งหมดนี้ล้วนอยู่ในสายตาของประชาชน

มติชนออนไลน์