“ณัฐวุฒิ” ข้องใจ “แรมโบ้อีสาน” หลุดคดี ส่วนตัวไม่เชื่อชอบด้วยหลักนิติธรรม

วันที่ 25 มิถุนายน 2562 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช.และอดีตประธานยุทธศาสตร์รณรงค์หาเสียงเลือกตั้งของพรรคไทยรักษาชาติ ได้ออกมาแสดงความต่อเนื่องจากกรณีการหลุดพ้นคดีของนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ อดีตแกนนำ นปช. และอดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต 10 จังหวัดนครราชสีมา พรรคพลังประชารัฐ ในคดีล้มการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน เมื่อปี 2552 ว่า

อย่างที่ได้พูดชัดเจนไปแล้วว่าไม่ติดใจเรื่องตัวบุคคล แต่กรณีคดีขาดอายุความโดยผู้ต้องหาเพียงรายเดียวพ้นไปนั้น เป็นปัญหาหลักนิติธรรมที่หน่วยงานผู้เกี่ยวข้องต้องมีคำอธิบาย

รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดชี้แจงได้ความว่าเป็นเรื่องสุดวิสัยโดยเจ้าพนักงานอัยการทำตามขั้นตอนกฎหมายทุกอย่างแล้วผมยินดีรับฟัง แต่ยังมีข้อสังเกตุอีกหลายประเด็นที่ต้องพูดอย่างตรงไปตรงมา

คดีนี้เริ่มดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.พัทยาไปขอหมายจับผมทั้งที่ยังไม่ได้ออกหมายเรียกตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 2560 ศาลไต่สวนแล้วไม่อนุมัติเพราะเห็นว่าผมมีที่อยู่เป็นหลักแหล่งและไม่เคยมีพฤติการณ์หลบหนีคดี จากนั้นอีก 4 วันคือวันที่ 4 เมษายน ตำรวจไปขอหมายจับอีกครั้งซึ่งศาลยังคงไม่อนุมัติ จึงยอมออกหมายเรียกตามขั้นตอน

เมื่อเรื่องมาถึงอัยการเราร้องขอความเป็นธรรมหลายครั้ง จนมีคำสั่งฟ้องโดยนัดผู้ต้องหามาพร้อมกันในวันที่ 19 มีนาคม พวกผมพยายามแจ้งเหตุจำเป็นขอเลื่อนอีกครั้ง อัยการก็ยินยอมโดยขีดเส้นสุดท้ายวันที่ 28 มีนาคม ในที่สุดก็นำตัวส่งฟ้องและจำเลยยื่นหลักทรัพย์ประกันตัวในวันดังกล่าว

ระหว่างนั้นเราไม่ได้พบคุณสุภรณ์ในแต่ละวันนัด การดำเนินการถูกแยกกันหลายเดือนก่อนถึงวันฟ้อง ทราบจากคุณอดิศรว่าที่มาพบอัยการให้นำตัวส่งฟ้องในวันที่ 2 เมษายน เพราะเป็นเส้นตายของอัยการที่จะไม่ยอมให้เลื่อนไปเช่นกัน

ในส่วนของคุณสุภรณ์ที่อัยการอ้างว่าไม่ยอมให้เลื่อนจากวันที่ 2 และศาลออกหมายจับในวันที่ 4 เมษายน แม้อายุความเหลือเพียง 1 สัปดาห์ แต่ก็เกินพอสำหรับยุคปัจจุบันที่จะตามจับกุมบุคคลซึ่งเคลื่อนไหวเปิดเผย ใช้อุปกรณ์สื่อสารตามปกติ

ในวันที่ 4 ซึ่งหมายจับออกแล้ว คุณสุภรณ์ไปให้สัมภาษณ์รายการ คม ชัด ลึก ทางโทรทัศน์ช่อง 22 ออกอากาศเวลา 22.15 น. เจ้าหน้าที่ทั้งหลายเอาหูไปนาเอาตาไปไร่อยู่หรือถึงไม่รับทราบ

อย่าถามผมเลยว่าทำไมไม่ใช้เทคนิคแบบเดียวกันจะได้ขาดอายุความไปด้วย ผมไม่คิดว่าจะโชคดีเช่นนั้น ขนาดหมายเรียกไม่ออกยังไปขอหมายจับก่อน ถ้าไม่มาตามนัดแล้วเขาออกหมายจับได้คงไล่ล่ากันทั่วประเทศ ดีไม่ดีจะไปยื่นถอนประกันคดีเก่าอ้างว่าหนีหมายจับเสียอีก

ใครจะได้ประโยชน์ หรือใครจะชี้แจงอย่างไรผมไม่ทะเลาะด้วย แต่ต้องระวังเพราะคนอาจคิดว่าเล่นกันเป็นขบวนการหรือไม่

ความยุติธรรมไม่ใช่เรื่องที่บอกกล่าวชี้นำกันได้ สามัญสำนึกของแต่ละคนต่างหากจะเป็นตัวตัดสิน ต่อให้ยกข้อกฎหมายมาทั้งโลก แต่ถ้าหัวใจมนุษย์เห็นว่าอยุติธรรม ก็ไม่มีทางได้รับการยอมรับ

เช่นเรื่องนี้ ถ้าจะบอกว่าชอบด้วยหลักนิติธรรมแล้วก็เชิญ แต่ผมไม่เชื่อ