วันที่ 25 เมษายน 2562 สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ผู้ชุมนุมที่ประกอบด้วยนักเคลื่อนไหวสิ่งแวดล้อมได้ปักหลักชุมนุมหน้าตลาดหลักทรัพย์และปีนขึ้นหลังคารถไฟรางเบาสถานีคานารี่ ราล์ฟ ซึ่งเป็นตึกที่ตั้งของตลาดหลักทรัพย์ในการชุมนุมวันสุดท้ายที่เรียกร้องให้อังกฤษแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมโลกที่เลวร้ายลงอย่างเร่งด่วน

โดยนักเคลื่อนไหวกลุ่มกบฎต่อการสูญพันธุ์ได้เคลื่อนไหวชุมนุมทั่วกรุงลอนดอนทั้งการปิดกั้นพื้นที่มาร์เบิล อาร์ค ถนนแยกออกซ์ฟอร์ด เซอคัสและสะพานวอเตอร์ลู รวมถึงทุบประตูตึกบริษัทน้ำมันเชลล์และแสดงแฟลชม็อบแบบกึ่งเปลือยสร้างความตกตะลึงให้กับสมาชิกสภาในรัฐสภาอังกฤษ

ในส่วนการชุมนุมหน้าตึกตลาดหลักทรัพย์ มีผู้ประท้วง 6 คน ส่วนชุดสีดำและผู้ไทค์แดงยืนขวางประตูเชื่อมระหว่างตึก และผู้ประท้วงอีก 5 คนปีนขึ้นหลังคารถไฟรางเบาพร้อมข้อความประท้วง โดย 1 ใน 5 ผู้ประท้วงที่ติดตัวเองกับหลังคารถไฟกล่าวว่า มันประหลาดมากที่เราต้องทำแบบนี้เพื่อสั่งให้รัฐบาลฟังบรรดานักวิทยาศาสตร์ ฉันมีโตที่ต้องเติบโต ดังนั้นฉันต้องทำ ฉันกำลังทำสิ่งนี้เพื่อคนที่ทำไม่ได้

ด้านตำรวจอังกฤษกล่าวว่า สามารถจับกุมผู้ประท้วงได้ 1,088 คน นับตั้งวันแรกของการชุมนุม

สำหรับกลุ่มผู้ประท้วงเรียกร้องให้รัฐบาลประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสิ่งแวดล้อมและนิเวศวิทยา ลดการปล่อยก๊าชเรือนกระจกให้เหลือศูนย์ภายในปี 2025 และตั้งสภาประชาชนเพื่อร่วมตัดสินใจในประเด็นการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ

ทั้งนี้ ตามข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ ในปี 2017 อังกฤษได้ปล่อยก๊าชเรือนกระจกถึง 43 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งลดลงกว่าในปี 1990 และต่ำกว่าปี 2016 อยู่ 2.6 เปอร์เซ็นต์ แม้ผู้ประท้วงให้คำมั่นว่าจะยุติการชุมนุมในวันนี้ อย่างไรก็ตาม พวกเขาสัญญาว่าจะมีการประท้วงอีกในอนาคต เพราะมีเพียงการแสดงออกทางตรงที่เป็นทางเดียวที่ดึงประเด็นดังกล่าวให้สาธารณชนสนใจ