‘วีระศักดิ์’ลุ้นคลอดกม.ประกันภัยนทท. เร่งวางแนวทางเพิ่มความสะดวก

นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงความคืบหน้าของกฎหมายใหม่ที่จะกำหนดให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติทุกคน ทำประกันภัยการเดินทางเมื่อเดินทางเข้าประเทศไทย ว่า ขณะนี้ ร่างพ.ร.บ.ประกันภัยได้ผ่านการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แล้ว แต่ยังต้องรอการลงพระปรมาภิไธยก่อน รวมถึงต้องศึกษากระบวนการทำงานและข้อปฎิบัติให้รอบคอบ เนื่องจากกระบวนการดังกล่าวไม่สามารถทำได้โดยง่าย แม้มีกฎหมายรองรับ เพราะหากบังคับใช้ต้องมีข้อปฎิบัติที่ชัดเจนว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติจะเดินทางเข้าประเทศไทยต้องทำประกันภัยก่อนเข้าประเทศ หรือสามารถทำผ่านช่องทางออนไลน์ได้เลย หรือหากต้องเข้ามาทำภายในประเทศ จะต้องทำในพื้นที่ใดจุดใด แล้วจะเกิดความไม่สะดวกในขั้นตอนเหล่านั้นหรือไม่ เนื่องจากประเทศไทยก็มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเที่ยวค่อนข้างมากปีละเกือบ 40 ล้านคน

“ปัจจุบันการทำประกันภัยให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติแบ่งเป็น 2 รูปแบบคือ การให้นักท่องเที่ยวทำด้วยความสมัครใจ ซึ่งส่วนนี้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือททท. ได้ร่วมมือกับบริษัทประกันภัยชั้นนำ เพื่อให้บริการแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีความต้องการที่จะทำประกันภัย ส่วนประกันภัยที่ต้องการผลักดันให้เกิดขึ้นคือ ประกันภัยภาคบังคับ เนื่องจากต้องการให้นักท่องเที่ยวต่างชาติทำประกันภัยทุกคนหากเดินทางเข้ามาเที่ยวในไทย คาดว่าราคาประกันภัยของนักท่องเที่ยวจะอยู่ที่ 2-3 เหรียญสหรัฐฯต่อคน ขึ้นอยู่กับประเภทของประกันภัยที่ทำ”นายวีระศักดิ์กล่าว

รายงานข่าวระบุว่า รูปแบบการทำประกันภัยให้กับนักท่องเที่ยวแบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่ 1.ประกันที่จัดเก็บจากนักท่องเที่ยวก่อนเข้าสู่ประเทศ ประเมินว่าจะทำให้นักท่องเที่ยวมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 30-40 บาทต่อคน 2.ประกันที่เจาะตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่มซอฟต์แอดเวนเจอร์ อาทิ ดำน้ำ ปีนเขา และล่องแก่ง เนื่องจากกิจกรรมเหล่านี้ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากขึ้น จึงมีแนวคิดบังคับใช้ให้ผู้ประกอบการด้านซอฟต์แอดเวนเจอร์มีสิทธิปฏิเสธนักท่องเที่ยวที่ไม่มีประกันประเภทนี้ได้ โดยนักท่องเที่ยวเองจะได้รับประโยชน์จากการทำประกันภัยจากกิจกรรมที่มีความเสี่ยง ขณะที่ตัวผู้ประกอบการสามารถสร้างรายได้เพิ่มจากการเป็นตัวแทนขายประกัน ถือเป็นการอำนวยความสะดวกบริเวรหน้าร้านแก่ชาวต่างชาติ

รายงานข่าวระบุว่า 3.ประกันภัยสำหรับรถยนต์ที่เดินทางข้ามแดน เพื่อรองรับการเติบโตของภาคท่องเที่ยวไทยซึ่งเป็นศูนย์กลางของอาเซียนและประเทศในกลุ่มลุ่มแม่น้ำโขง เพื่อครอบคลุมอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับตนเองและผู้อื่น โดยสาเหตุที่ต้องบังคับให้นักท่องเที่ยวทำประกันภัย เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่าหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ต้องใช้งบประมาณรวมกว่า 200 ล้านบาทต่อปี ในการรักษาพยาบาลนักท่องเที่ยวที่เกิดอุบัติเหตุหรือมีปัญหาสุขภาพระหว่างท่องเที่ยวในไทย เพราะตามหลักสิทธิมนุษยชนแล้ว ไม่สามารถปฎิเสธการรักษาพยาบาลอย่างเต็มประสิทธิภาพได้ แม้จะไม่อาจจัดเก็บค่ารักษาพยาบาลจากนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ก็ตาม

มติชนออนไลน์