ต่างประเทศอินโดจีน : สังคม LGBTQ ที่พนมเปญ

สังคมและวัฒนธรรมกัมพูชา ไม่เอื้อต่อการดำรงอยู่ของผู้คนที่ “เบี่ยงเบนทางเพศ” นัก แม้จะไม่ถึงกับปิดตายและถือเป็นความผิดตามกฎหมายเหมือนในบางประเทศก็ตามที

ในระดับครอบครัว ผู้ที่มีเพศสภาพแตกต่างไปจากสภาวะทางร่างกาย อาจจำเป็นต้องอรรถาธิบายกันหนักและเยอะมากกับสมาชิกในครอบครัว โดยเฉพาะบรรดาญาติพี่น้องอาวุโสทั้งหลาย

เพื่อทำความเข้าใจกันให้ได้ว่าการเป็น “เกย์” หรืออื่นใดนั้น คืออย่างไร

ในระดับสังคมที่ขยายกว้างออกมาอีกไม่น้อย ผู้ที่เป็นเกย์ หรือเป็นกะเทย รวมไปถึงคนที่จำแนกตัวเองอยู่ในกลุ่ม “แอลจีบีทีไอ” ง่ายมากที่จะตกเป็นเป้าสายตา เรียกเสียงหัวเราะขบขัน ถากถางจากบุคคลทั่วไป

 

ในช่วงขวบปี มีอยู่เพียง 1 สัปดาห์เศษเท่านั้นที่บรรดาเกย์ทั้งหลายสามารถเปิดเผยตัวตนต่อสังคมแวดล้อมได้อย่างเต็มที่ในรูปแบบที่ตัวเองต้องการ

คือช่วงเวลา 10 วันในช่วงระหว่างวันที่ 12 จนถึงวันที่ 22 ของเดือนพฤษภาคม ที่เรียกกันว่า “ไพรด์วีก” หรือ “ไพรด์เฟสติวัล” สัปดาห์ที่ภาคภูมิของพวกเขา

ปิดท้ายสัปดาห์เฉลิมฉลองนี้ด้วยการแข่งขันตุ๊กตุ๊ก ที่มีการตกแต่งประดับประดารถตุ๊กตุ๊ก จนเลิศลอยวิลิศมาหรา เพื่อลงแข่งขันกันค้นหาและแก้ไขปัญหาเป็นจุดๆ ไปตามรายทางที่ส่วนใหญ่แล้วเป็นบันเทิงสถานและบาร์เกย์ ใครถึงจุดหมายได้ก่อนเป็นผู้ชนะ

“ตุ๊กตุ๊ก เรซ” นี้ เดวิด ฮันท์ ชาวยุโรปที่เคยมาสอนหนังสืออยู่ในพนมเปญเป็นคนคิดจัดแข่งขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2012 ก่อนที่จะรวมเข้ากับเทศกาลของชาวเกย์ในเวลาต่อมา

ฮันท์ย้ำว่า การแข่งขันนี้มีความหมายสูงยิ่งสำหรับเจ้าของรถและบรรดาลูกค้าที่เบี่ยงเบนทางเพศทั้งหลาย ยิ่งเป็นคนที่เคยมีประสบการณ์เลวร้ายจากสมาชิกในครอบครัวหรือจากสังคมแวดล้อม ยิ่งมีความหมาย

เพราะนี่คือโอกาสเดียวเท่านั้นในแต่ละปีที่พวกเขาจะได้รับเสียงเชียร์สนั่นหวั่นไหวจากคนอื่นๆ

 

วิเชต นู กราฟิกดีไซเนอร์ วัย 25 ปี ที่เปิดเผยเต็มที่ว่าตัวเองเป็นเกย์ และเรียกตัวเองว่า “นิกซ์” เป็นผู้จัดการแข่งขันตุ๊กตุ๊กในเทศกาลประจำปีที่ว่านี้ เล่าว่า ตัวเองเปิดเผยเพศสภาพที่เบี่ยงเบนกับครอบครัวเมื่ออายุ 22 ที่ถือว่าเป็นวัยผู้ใหญ่เต็มตัวในกัมพูชา กระนั้นก็ยังต้องใช้เวลามากมายไม่น้อยในการทำความเข้าใจกับคนในครอบครัวในเรื่องนี้

ถึงที่สุดแล้วผู้ใหญ่ในครอบครัวบางคน ที่ถึงแม้จะรับรู้แล้วว่าเขาเป็นเกย์ ยังคง “คาดหวัง” ไม่เสื่อมคลายว่า สักวันหนึ่งนิกซ์จะแต่งงานแต่งการกับผู้หญิงเป็นหลักเป็นฐาน

อย่างไรก็ตาม “นิกซ์” ยังคงยืนยันว่า การเปิดเผยตัวเองออกมาของเขาต่อครอบครัว ถือเป็น “ประสบการณ์ที่ดี”

แต่เพื่อนเกย์อีกหลายคนไม่โชคดีเหมือนนิกซ์ หลายคนเผชิญปัญหาหนักมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อถูกกดดันจากทุกๆ คนในครอบครัวให้แต่งงาน

หลายคนตัดสินใจซุกซ่อนความเป็นจริงของตัวเองไว้มิดชิด และเลือกที่จะแต่งงานกับผู้หญิงตามความต้องการของพ่อ-แม่และคนในครอบครัว อีกบางคนเลือกที่จะใช้ชีวิตอยู่ใต้ความกดดันจนมีงานมีการทำ ไม่ต้องพึ่งพาพ่อแม่แล้วถึงเปิดเผยเพศสภาพของตัวเองออกไป

นิกซ์บอกว่า วิธีที่ดีที่สุดในการเปลี่ยนทัศนคติของคนรอบข้างก็คือ แสดงให้เห็นว่าคุณมีความสามารถ มีศักยภาพและประสบความสำเร็จได้

เขายกตัวอย่างตัวเอง ที่แค่ 25 ก็เป็นกราฟิกดีไซเนอร์ที่ประสบความสำเร็จ สร้างความประหลาดใจให้กับหลายคน รวมทั้งผู้เป็นบิดา

คนที่บอกกับเขาว่า แกยังเป็นลูกฉันอยู่ดี คู่ที่เลือก ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย ขอให้เป็นคนดีก็แล้วกัน