ภูมิใจไทยมาถึงที่! ให้กำลังใจคนแจ้งครอบครองกัญชาถึง อย.ชูนโยบายกัญชาเสรี รัฐต้องไม่ผูกขาดให้นายทุน ‘ลีน่าจัง’ มายื่นครอบครองด้วย

เมื่อวันที่ 4 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการรับแจ้งขึ้นทะเบียนการครอบครองกัญชา ตามกฎหมายนิรโทษการครอบครองกัญชาหากแจ้งภายใน 90 วันไม่ต้องรับโทษ ที่บริเวณชั้น 2 ศูนย์ผลิตภัณฑ์สุขภาพเบ็ดเสร็จ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) โดยตลอดช่วงเช้ามีผู้เดินทางทยอยมาแจ้งการครอบครอง และสอบถามจำนวนมาก โดยปรากฎว่าหนึ่งในนั้นมี นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย ได้เดินทางมาด้วยเช่นกัน แต่เดินทางมาเพื่อให้กำลังใจกับผู้ที่มาแจ้งการครอบครองกัญชา

นายศุภชัย กล่าวว่า ด้วยความที่พรรคภูมิใจไทยมีนโยบายเกี่ยวกับเรื่องกัญชามาตลอด และได้ติดตามกฎหมายของรัฐเกี่ยวกับเรื่องนี้ ก็พบว่ามีการผูกขาดให้กับนายทุน โดยอาศัยกฎหมายกำหนด 5 ปีทุกอย่างต้องร่วมกับรัฐ แม้แต่ประชาชนในรูปของวิสาหกิจชุมชนก็เช่นกัน ในวันนี้ (4 มี.ค.) จึงมาให้กำลังใจกับผู้ที่มาแจ้งการครอบครอง ว่า พรรคมีความพร้อมที่จะทำให้กัญชาสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้จริง และปลูกได้อย่างเสรีครอบครัวละ 6 ต้น โดยสามารถใช้ได้ภายในบ้านของตน ซึ่งพรรคยืนยันว่า คนไทยต้องได้ใช้ประโยชน์จากกัญชาทั้งหมด ไม่ใช่แค่ให้นายทุนเท่านั้น เพราะเราไม่แน่ใจว่าหลังจาก 5 ปีไปแล้วที่กฎหมายกำหนดให้ร่วมกับรัฐ สุดท้ายแล้วหลัง 5 ปีจะเป็นอย่างไรก็ไม่มีใครทราบ เพราะจากกฎหมายก็ชัดเจนว่าเป็นการรวบอำนาจ อย่างกรรมการที่พิจารณากัญชาก็มาจากภาครัฐ ซึ่งเป็นผู้ชี้ขาดว่าจะอนุญาตใครปลูก เป็นการผูกขาดชัดเจน

เมื่อถามว่า การจะให้ปลูกเสรี แต่ปัจจุบันกฎหมายไม่ได้กำหนด แสดงว่าต้องแก้กฎหมาย หรือแก้ พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ(ฉบับที่ 7) พ.ศ.2562 นายศุภชัย กล่าวว่า ใช่ ซึ่งพรรคกำลังทำ โดยต้องยุติการรวบอำนาจจากรัฐ และนำกัญชาออกจากยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 และให้แต่ละครอบครัวปลูกกัญชา 6 ต้น โดยมีการควบคุมตามกฎหมาย โดยมุ่งเน้นให้กัญชาเป็นพืชเศรษฐกิจด้วย

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการแจ้งการครอบครอง ปรากฎว่ายังมีลีน่า จัง มาแจ้งการครอบครองครั้งนี้ด้วย

ด้าน น.ส.ลีนา จังจรรจา หรือ “ลีน่าจัง” มายื่นขอนิรโทษด้วย กล่าวว่า ตนเองป่วยเป็นโรคซึมเศร้า นอนไม่หลับ จึงได้ไปศึกษาหาข้อมูลจนพบว่าน้ำมันกัญชาช่วยรักษาโรคได้ ตนเองจึงไปติดต่อ ลุงตู้ และนำมาใช้พบว่าทำให้ตัวเองหลับได้สบาย และอาการกังวลก็ลดน้อยลงไปด้วย พร้อมระบุว่า มาตรการนี้ของ อย.ดี แต่ยังไม่มีความชัดเจน ประชาชนยังไม่ทราบว่าต้องใช้หลักฐานใดมายื่น ทำให้หลายคนเสียเวลา เสียเงินหลายรอบเพื่อมายื่น อีกอย่างต้องนำตัวยามาสำแดงยิ่งทำให้ประชาชนเกิดความหวาดวิตก กลัวโดนจับ จึงยังไม่มีใครกล้ามาแจ้ง จึงอยากให้ภาครัฐชี้แจงให้ชัด ให้ประชาชนได้ทราบอย่างทั่วถึง และจะได้กล้าออกมาลงทะเบียน

มติชนออนไลน์