“เพื่อชาติ” ห่วงพรบ.ไซเบอร์ถูกใช้กำจัดคนเห็นต่าง

วันที่ 3 มีนาคม 2562 ดร.รยุศด์ บุญทัน รองโฆษกพรรคเพื่อชาติ กล่าวแสดงความคิดเห็นต่อกรณี สนช.ผ่านร่าง พรบ.ไซเบอร์อย่างเอกฉันท์ โดยไม่มีเสียงค้านแม้แต่เสียงเดียวว่า ตนได้เคยแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการออกกฎหมาย ของสมาชิกสภานิติบัญญัติ หรือ สนช. ที่เกี่ยวกับเรื่องสำคัญ ๆ ว่า ควรชะลอไว้ก่อน รอให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ที่ยึดโยงกับประชาชนเป็นผู้ออกกฎหมายเหล่านี้ ยกตัวอย่าง พรบ.ไซเบอร์ ที่พึ่งผ่าน สนช.มาสด ๆ ร้อน ๆ ซึ่งตนคิดว่ากฎหมายฉบับนี้มีเนื้อหาที่ส่งผลกระทบอย่างมากต่อสิทธิเสรีภาพ สิทธิส่วนบุคคล และอาจจะกลายเป็นเครื่องมือที่นำมาใช้กำจัดคนเห็นต่างได้ มิควรอย่างยิ่งที่มาออกในสภาที่มิได้มาจากประชาชน อย่างไรก็ตาม ตนยังคงขอเรียกร้องไปยัง สนช. ให้ยุติการพิจารณาร่างกฎหมายต่าง ๆ โดยเร็ว โดยเฉพาะร่างฯที่มีผลกระทบโดยตรงกับประชาชน และประเทศชาติ

ดร.รยุศด์ กล่าวอีกว่า ในอดีตมีการกล่าวหา พรรคการเมืองที่มีเสียงข้างมากในสภา ว่าเป็นเผด็จการรัฐสภา อย่างน้อยพรรคนั้นก็ยังได้รับการเลือกมาจากประชาชน ทำงานเพื่อประชาชน ประเทศชาติเจริญรุ่งเรือง ประชาชนอยู่ดีมีสุข มีเงินใช้ แต่ในยุคปัจจุบัน สนช.เป็นสภาที่มาจากการแต่งตั้งของ คสช.ทำงานมาแล้วเกือบห้าปี ซึ่งส่วนใหญ่ ประกอบด้วยบุคคลอาวุโสมาก ๆ ทำงานง่าย ๆ เพียงยกมือผ่านกฎหมาย ไม่มีการค้านใด ๆ ไม่มีส่วนร่วมของประชาชน ไม่มีความยึดโยงกับประชาชน ดังคำกล่าวที่ว่า ชนชั้นใดออกกฎหมาย ก็เพื่อชนชั้นนั้น แล้วประเทศชาติในตอนนี้เป็นเช่นไร ความเหลื่อมล้ำสูงเป็นอันดับ 1 ของโลก เศรษฐกิจ ปากท้อง ราคาสินค้าเกษตร แย่ลงเรื่อย ๆ เหล่านี้ล้วนเป็นบทพิสูจน์ว่า เผด็จการแบบใดดีกว่ากัน เผด็จการรัฐสภา ที่มีฝ่ายค้าน ตรวจสอบได้ ประชาชนกินดีอยู่ดี หรือ เผด็จการทหาร ที่ตรวจสอบไม่ได้ ประชาชนยากจน เดือดร้อนทุกหย่อมหญ้าดังเช่นตอนนี้