“จุรินทร์” พบชาวนาบางกระทุ่ม-พรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก จี้ถอย พรบ.ข้าว ช่วง พรฎ.เลือกตั้งไม่ควรริเริ่มนโยบายสร้างปัญหาผูกพันรัฐบาลชุดต่อไป ให้เป็นเรื่องรัฐบาล-สภาใหม่ดีกว่า

วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2562 เมื่อเวลา 11.00 น. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมกับนางสาวมุธิตา ทองคำนุช ผู้สมัครหมายเลข 10 เขต 4 จังหวัดพิษณุโลก ได้เดินทางไปพบกับชาวนาที่ วัดเจริญราษฎร์ ต.วัดตายม อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก ซึ่งชาวนาจำนวนมากต่างแสดงความยินดีที่ได้มาพบนายจุรินทร์ พร้อมระบายปัญหาต่างๆ ที่กำลังประสบ โดยนายจุรินทร์ ได้สอบถามถึงความเห็นและผลกระทบของร่าง พรบ.ข้าว ซึ่งชาวนาที่แสดงความเห็นต่างเกรงว่าจะมีผลกระทบทางลบต่อชาวนาในเรื่องการเก็บและใช้เมล็ดพันธุ์ข้าว และเกรงว่าจะทำให้ต่อไปเวลาทำนาจะต้องซื้อเมล็ดพันธุ์จากบริษัทธุรกิจหรือเฉพาะพันธุ์ที่โรงสีกำหนดเท่านั้น โดยพันธุ์ที่ชาวนาเก็บไว้ใช้ปลูกเองจะไม่รับซื้อ

โดยนายชนะ บุญธรรม ชาวนา บางกระทุ่ม กล่าวว่า ยังก้ำกึ่ง ไม่แน่ใจว่า พรบ.ข้าว จะดีจริงหรือไม่ มีแต่ข่าวทีวี เสียงตามสายบอกไม่เหมือนกัน และยังไม่เคยมีข้าราชการหน่วยงานใดมาสอบถามความเห็นกับชาวนาเลย

ส่วนนางวันดี อินโส ชาวนา อายุ 44 ปี มีที่นา 10 ไร่ กล่าวกับนายจุรินทร์ว่า ชาวนาในตำบลของตนไม่มีใครชอบ พรบ.ข้าวเลย เพราะทำให้ต้องซื้อเมล็ดพันธุ์จากนายทุน และโรงสีจะเป็นผู้กำหนดราคาเอง รวมถึงปุ๋ย และยาฆ่าแมลง ถ้าไม่ซื้อหรือปลูกผิดพันธุ์จากที่เขากำหนด ก็มีความผิด ติดคุกด้วย

นายจุรินทร์ ได้กล่าวปราศรัยว่า ตามข่าวจะมีการนำร่าง พรบ.ข้าว เข้าสู่การพิจารณาของ สนช.อีกครั้งในวันที่ 26 ก.พ.62 นี้ ยังไม่ทราบว่าเนื้อหาจะออกมาอย่างไร จะฟังเสียงชาวนามากน้อยแค่ไหน อย่างไรก็ตาม หาก กม.ฉบับนี้ออกมาในลักษณะไม่เป็นที่ยอมรับและสร้างปัญหากับชาวนา หากพรรคประชาธิปัตย์ ได้รับการเลือกตั้ง ก็พร้อมเข้าไปแก้ไข เพื่อไม่ให้มีผลกระทบทางลบต่อชาวนา ทั้งนี้เนื่องจากปัจจุบันดูเหมือนกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการปลูกข้าวจะอยู่ในมือของทุนไม่กี่บริษัท ทั้ง ปุ๋ย ยา สารเคมี ต่างๆ จนเกือบครบวงจรแล้ว หากจะให้เมล็ดพันธุ์มีการผูกขาดได้อีก ก็เท่ากับทำให้ระบบผลิตข้าวของชาวนาไทยต้องไปขึ้นกับทุนใหญ่ๆครบวงจร

นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า ทางออกที่ควรจะเป็นคือควรรอรัฐบาลและสภาที่มาจากการเลือกตั้ง เพราะในช่วงที่มี พรฎ.เลือกตั้ง ไม่ควรมีการริเริ่มนโยบายใหม่ที่มีปัญหาและมีผลผูกพันรัฐบาลชุดต่อไป เพื่อเปิดโอกาสให้เกษตรกรชาวนาและฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้องรวมทั้งรัฐบาลและสภาชุดใหม่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการพิจารณา

ทั้งนี้ นายจุรินทร์ยังได้กล่าวปราศรัยในเรื่องนโยบายประกันรายได้เกษตรกรของพรรคประชาธิปัตย์ว่า หากได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล จะประกันรายได้ให้กับชาวนาที่ปลูกข้าวเกวียนละ 10,000 บาท ข้าวหอมมะลิ 15,000 บาท โดยจะโอนเงินส่วนต่างเข้าบัญชีชาวนาโดยตรง ไม่ให้มีการทุจริต ส่วนการเลือกตั้งที่จังหวัดพิษณุโลกนั้น พรรคประชาธิปัตย์ส่งครบทั้ง 5 เขต และเชื่อว่าจะได้ที่นั่งเพิ่มขึ้นจากครั้งที่แล้วที่ได้เพียง 3 เขต ทั้งนี้เนื่องจากนายจุติ ไกรฤกษ์ เลขาธิการพรรค ได้ลงไปดูพื้นที่ด้วยตนเอง ส่วนจะเป็นเท่าไหร่จะรอประเมินอีกครั้งหนึ่งในสัปดาห์สุดท้าย ซึ่งขณะนี้ผู้สมัครทุกคนของพรรคก็ขยันลงพื้นที่ตลอดเวลา