พม่าถอนข้อหาพร้อมเจรจา ชาวกะยาชุมนุมค้านตั้งอนุสาวรีย์ “อูอองซาน”

วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2562 สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานโดยอ้างจากสื่อทางการของพม่าว่า พม่าเตรียมถอนข้อหาเอาผิดชนกลุ่มน้อยชาวกะยาที่รวมตัวประท้วงคัดค้านการตั้งอนุสาวรีย์นายพลออง ซาน ผู้กอบกู้ประเทศพม่า และเป็นบิดาของนางออง ซาน ซูจี มุขมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศพม่า พร้อมกับขอเจรจาหาข้อยุติกับกลุ่มผู้ประท้วง

ท่าทีผ่อนปรนอันน่าแปลกใจนี้ เกิดขึ้นในขณะที่ นางซูจี เผชิญความไม่พอใจจากบรรดาชนกลุ่มน้อยหลายกลุ่มก่อนการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในปีหน้า หลังจากที่เมื่อวานนี้ ตำรวจพม่าได้ยิงกระสุนยาง ขว้างแก๊สน้ำยาและใช้ปืนฉีดน้ำสลายกลุ่มผู้ประท้วงชาวกะยา 3,000 คนที่ชุมนุมอยู่ในสวนสาธารณะของเมืองลอยแก้ว เมืองหลวงของรัฐกะยา ที่กำลังชุมนุมเรียกร้องให้ทำลายหรือย้ายอนุสาวรีย์ออกจากพื้นที่ เพราะนายพลอองซาน เป็นชาวพม่า ซึ่งเป็นพลเมืองส่วนใหญ่ของประเทศ และการตั้งอนุสาวรีย์หมายถึงการลดทอนความเสมอภาคของกลุ่มชาติพันธุ์ที่มีสิทธิเท่าเทียมกับชาวพม่า ก่อนที่จะมีการสลายกลุ่มผู้ชุมนุมพร้อมตั้งข้อหากับผู้ชุมนุมฐานจัดการชุมนุมอย่างผิดกฎหมาย

ด้านหนังสือโกลบอล นิว ไลท์ ออฟ เมียนมาร์ของทางการพม่าระบุว่า ทางการพร้อมเจรจากับผู้ประท้วง ซึ่งผู้ประท้วงยอมยุติการชุมนุมหากตกลงว่าจะต้องมีหารือระงับข้อพิพาทการตั้งอนุสาวรีย์อองซานภายในเดือนนี้

สื่อทางพม่ายังระบุอีกว่า อาจมีแผนการย้ายอนุสาวรีย์นายพลอองซาน ออกจากพื้นที่พื้นสาธารณะกรุงลอยแก้วด้วย

ขณะที่แกนนำประท้วงกล่าวว่า ข้อหาชุมนุมผิดกฎหมายและหมิ่นประมาทที่ตั้งให้กับผู้ประท้วงจะมีการถอนในศาลวันนี้

ทั้งนี้ นักเคลื่อนไหวชนกลุ่มน้อยหลายกลุ่มผลักดันข้อเรียกร้องให้มีการตั้งรัฐบาลแบบสหพันธรัฐเกิดขึ้นในพม่า ซึ่งนับตั้งแต่รัฐบาลพรรคเอ็นแอลดีขึ้นมาบริหารประเทศในปี 2559 นางซูจีให้ความสำคัญกับการสร้างสันติภาพกับกองกำลังติดอาวุธของชนกลุ่มน้อยหลายกลุ่ม แต่กระบวนการก็เป็นไปอย่างล่าช้า