“ไกลก้อง” กางข้อมูลชี้ฝุ่นกองรวมเข้ากรุงจากกระแสลม “เผาเพื่อเกษตร” อีกสาเหตุใหญ่ ย้ำเป็นปัญหาประเทศ

วันที่ 31 มกราคม 2562 นายไกลก้อง ไวทยการ นายทะเบียนพรรคอนาคตใหม่ และผู้คร่ำวอดในด้านข้อมูลสารสนเทศและเจ้าของโปรเจกต์ FWP Hackathon ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กแฟนเพจเผยข้อมูลถึงลักษณะสภาพอากาศที่เกี่ยวข้องกับปัญหาฝุ่นละออง จนพบว่าได้ส่งผลกระทบไม่เพียงแค่กรุงเทพฯแต่ยังรวมถึงหลายจังหวัด

นายไกลก้องระบุว่า อีกสาเหตุหนึ่งของปัญหา #ฝุ่น #pm25 คือการเผาเพื่อทำการเกษตร

โดยอนุภาคสสาร หรือ PM โดยเฉพาะ PM2.5 หรืออนุสสารขนาด 2.5 ไมครอน เกิดจากการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ไม่ว่าจากการเผาไหม้เครื่องยนต์และปล่อยออกมาในรูปของควันเสีย และการเผาไหม้ตามธรรมชาติ หรือการเผาจากกิจกรรมทางการเกษตร

“ภาพนี้แสดงข้อมูลจากดาวเทียมที่จับจุดความร้อนหรือ hotspot ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา กับ กระแสลม เทียบกับแผนที่บนเว็บ Air Visual ที่เราคุ้นเคยกันแล้ว เห็นพื้นที่จุดความร้อนจากการเผา และ พื้นที่ที่มีค่า AQI สูงในประเทศไทยสอดคล้องกัน และกระแสลมที่พัดจากทางตะวันตกเฉียงใต้ ไล่ฝุ่นมาจากประเทศเพื่อนบ้าน อีสาน เหนือ มากองกันที่กรุงเทพ ซ้ำยังมีลมพัดย้อนมาทางอ่าวไทย สถานการณ์ฝุ่นละอองเลยเข้าขั้นวิกฤต” นายไกลก้อง กล่าว

นายไกลก้องกล่าวอีกว่า ข้อเท็จจริงคือฝุ่นละอองขนาดเล็ก สามารถมาได้ไกลหลายร้อยกิโลเมตร ซึ่งเราสามารถเห็นได้จากพื้นที่ภาคใต้ของไทย ช่วงที่มีการเผาพื้นที่ปลูกปาล์มในอินโดนีเซีย ทำให้สิงค์โปร์ มาเลเซีย และ พื้นที่จังหวัดภาคใต้ของไทยได้รับผลกระทบ

“การแก้ปัญหาฝุ่นละออง ทำได้คล้ายกับการแก้ปัญหาภัยพิบัติอื่น ๆ คือ ต้องมีข้อมูล ต้องคาดการณ์ได้ล่วงหน้า มีแผนรับมือ และ มีมาตรการป้องกัน ปัญหาฝุ่นควันทางภาคเหนือ ทำให้พื้นที่เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เกิดต่อเนื่องหลายปีจนมีแผนรับมือที่ชัดเจน ทีมดับไฟป่าในพื้นที่ และ องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น ร่วมกันทำงาน เมื่อพบจุดความร้อนก็ส่งทีมเข้าไปดับไฟ ร่วมกับคำสั่งทางปกครอง และ การเอาจริง เอาจังของผู้บริหารท้องถิ่น ก็ทำให้ปัญหาต่าง ๆ ถูกแก้ไขให้ดีขึ้น” นายไกลก้อง กล่าว

นายไกลก้องได้เสนอมาตรการรับมือว่า ดังนั้นมาตรการเรื่องฝุ่น มองเฉพาะในกรุงเทพไม่ได้ ต้องแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ เมื่อพบจุดการเผาไหม้ เสนอให้

– ให้ทุกองค์กรปกครองส่วนถ้องถิ่นมีการเฝ้าระวังจุดเผาไหม้ความร้อน (hot spot)
– มีทีมเคลื่อนที่เร็วในพื้นที่ต่าง ๆ ไปจัดการดับไฟ
– เพิ่มจุดตรวจวัดมลพิษ ฝุ่น ทั้งจากหน่วยงานรัฐ ภาคการศึกษา และเอกชน และเปิดเป็น Open Data
– มีระบบ SMS แจ้งเตือนที่รวดเร็ว และ เข้าถึงมือถือประชาชนในพื้นที่ ๆ ได้รับผลกระทบทันที
– กระจายอำนาจในการจัดการจุดเผาไหม้ไปที่ท้องถิ่น แต่เชื่อมโยงข้อมูลให้ส่วนกลางเห็นภาพรวมขแงการจัดการ

นอกจากนี้ ควรมีมาตรการ อื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น

– ลด หรือ ยกเว้นภาษี นำเข้าอุปกรณ์ป้องกัน เช่น หน้ากาก เครื่องฟอกอากาศ เซ็นเซอร์ตรวจวัดฝุ่นละออง
– มีมาตรการเรื่องมาตรฐานระบบปรับอากาศ และ กรองอากาศ ในโรงเรียน และ โรงพยาบาล
– มาตรการความปลอดภัยในสถาานประกอบการ ต้องรวมเรื่องภาวะวิกฤติฝุ่น นายจ้างต้องมีหน้ากากกันฝุ่นให้คนงาน
– ศูนย์อนามัย กทม./ โรงพยาบาล โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ให้มีหน้ากากกันฝุ่นแจก ใช้งบที่อยู่ในระบบประกันสุขภาพนั่นแหละ
– เพิ่มพื้นที่สีเขียว ปลูกต้นไม้

ทั้งนี้ นายไกลก้องย้ำว่า เรื่องหมอก ควัน ฝุ่น เป็นปัญหาระดับประเทศ ไม่ใช่แค่ของคนกรุงเทพ!