“ธนา”สับ“ณัฐวุฒิ”เป็นผู้นำไร้รับผิดชอบ ชี้ ปชป.บอยคอตเลือกตั้ง เป็นสิทธิ์ตามรธน.

“ธนา” ตอก “ณัฐวุฒิ” ปากประชาธิปไตย แต่ใช้ความรุนแรง ไร้ภาวะผู้นำ

เมื่อวันที่ 17 มกราคม ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายธนา ชีรวินิจ โฆษกพรรคปชป.แถลงถึงกรณีที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง พรรคไทยรักษาชาติ(ทษช.) ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวพาดพิงถึงพรรคปชป.หลายตอนด้วยกันนั้นว่า ประเด็นที่นายณัฐวุฒิอ้างว่า รัฐบาลพรรคเพื่อไทย(พท.) แก้รัฐธรรมนูญเอื้อประโยชน์ในการเลือกตั้ง แต่การออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอยไม่ใช่เหตุรัฐประหารนั้น นายธนาชี้แจงว่า การที่พรรคพท.เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในเวลานั้น ได้มีการแก้ในหลายประเด็น ไม่ว่าจะเป็นที่มาของ สสร. การเลือกตั้ง ส.ว. ที่ให้คนในครอบครัวเดียวกันลงสมัครได้ และจะทำให้การเลือกตั้งไม่เป็นไปโดยบริสุทธิ์ยุติธรรม ขณะที่พรรคปชป.เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญในเรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้งให้ใหญ่ขึ้น โดยให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 ที่ได้ ส.ส. มาในขณะนั้น เพราะปชป.เห็นว่า การเลือกตั้งโดยที่มีเขตเลือกตั้งที่มีขนาดใหญ่ จะป้องกันการซื้อเสียงได้ หากเป็นการเลือกตั้งในเขตเล็ก การซื้อเสียงของนายทุนที่จะเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ทางการเมืองนั้นทำได้ง่ายกว่า และการที่จะสกัดกั้นการซื้อเสียงได้นั้น ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการปกครองระบอบประชาธิปไตย หากคนที่เข้าสู่ระบบการเลือกตั้งมาโดยมิชอบแล้ว โอกาสที่จะเข้ามากอบโกยผลประโยชน์ เพราะต้องเสียทุนในการเลือกตั้งจำนวนมากนั้นมีมากกว่าอย่างแน่นอน

นายธนา กล่าวต่อว่า การที่นายณัฐวุฒิ ระบุว่าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเรื่องพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมสุดซอยที่หลายฝ่ายคัดค้าน และมีการเคลื่อนไหวขยายเป็นวงกว้าง โดยนายณัฐวุฒิไม่ได้ลงคะแนนให้ และรัฐบาลสมัยนั้นแสดงความรับผิดชอบด้วยการยุบสภา ก็น่าจะจบแล้วให้ประชาชนตัดสินใจตามวิถีทางประชาธิปไตย การยึดอำนาจครั้งนี้ เกิดขึ้นเพราะ พท. กล้าทำในสิ่งที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ทางการเมืองของพรรคการเมืองไทย นิรโทษกรรมให้นายทักษิณ ชินวัตร และแกนนำคนเสื้อแดง ที่ทำผิดกฎหมายบ้านเมือง และท้ายที่สุดคนที่ผลประโยชน์จากการออกพ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอย หนึ่งในนั้นก็คือนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายณัฐวุฒิยอมให้พรรคเพื่อไทยนิรโทษกรรมคนที่อ้างว่ามีการทำร้ายคนเสื้อแดง ถ้าชีวิตของคนเสื้อแดงที่ร่วมต่อสู้มากับนายณัฐวุฒิ แต่นายณัฐวุฒิทำได้เพียงงดออกเสียงในการลงมติ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอย ผมก็ต้องถือว่านี่เป็นละครฉากหนึ่งที่นายณัฐวุฒิแสดงได้ไม่แนบเนียน นายณัฐวุฒิร่วมเป็นร่วมตาย อ้างกลุ่มคนเสื้อแดงมาเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย มีหลายคนสูญเสียชีวิต หลายคนบาดเจ็บ แต่นายณัฐวุฒิไม่ได้แสดงความเป็นผู้นำในการรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นเลย ถ้านายณัฐวุฒิทำได้เพียงการงดออกเสียง นั่นแสดงว่าวุฒิความเป็นผู้นำของนายณัฐวุฒิในการดำเนินการทางการเมืองต่อไปนั้นไม่มีเหลืออีกแล้ว

“ส่วนการบอยคอตการเลือกตั้ง เป็นสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญของพรรคการเมือง ซึ่งหากเห็นว่าการเลือกตั้งนั้นจะไม่ชอบ และนำให้ประเทศกลับไปสู่ปัญหาอีกครั้ง พรรคปชป.ในเวลานั้นได้เลือกที่จะตัดสินใจไม่เข้าสู่การเลือกตั้ง แม้ว่าการเลือกตั้งเสร็จแล้ว คนของปชป.ก็จะมีตำแหน่งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรก็ดี หรืออาจจะมีตำแหน่งทางการเมืองก็ดี แต่ผลประโยชน์ของประชาชน และประเทศชาติ ต้องเหนือกว่าผลประโยชน์ของพรรคการเมือง พรรคประชาธิปัตย์จึงตัดสินใจบอยคอตการเลือกตั้งครั้งนั้น เพราะเห็นว่าจะเป็นประโยชน์กับประชาชนและประเทศชาติมากกว่า ผิดกับนายณัฐวุฒิ เมื่อประกาศชัดเจนอยู่ตลอดเวลาว่าอยู่กับพรรคพท. แต่เมื่อมีแนวโน้มว่าพรรคเพื่อไทยจะไม่มี ส.ส. ในระบบบัญชีรายชื่อมากพอ นายณัฐวุฒิก็ประกาศย้ายพรรค ไปอยู่พรรค ที่สำคัญที่สุดมีการดำเนินการที่จะเป็นลักษณะของการฮั้วกันทางการเมือง ซึ่งขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ในการที่จะเลือกส่ง ส.ส. ในระบบเขต ไม่ชนกับพรรคพท. ตามที่ปรากฎเป็นข่าว”โฆษก ปชป.กล่าว

มติชนออนไลน์