พรรคการเมืองร่วมเกมส์กำจัดอ้ายคนจน ชูนโยบายแก้จน จากเพิ่มรายได้ถึงการศึกษามีคุณภาพ

เมื่อเวลาประมาณ 15.30 น. วานนี้ (16 ธันวาคม 2561) ในงานเวทีสาธารณะ “ประชาธิปไตยที่กินได้ การเมืองที่เห็นหัวคนจน” ที่ลานหน้าหอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ซึ่งจัดโดย สมัชชาคนจน ร่วมด้วยเครือข่ายองค์กรภาคประชาชน นักกิจกรรม นักวิชาการหลายกลุ่มรวมกันเสนอข้อมูลและปัญหาของความยากจนที่กลายเป็นปัญหาเรื้อรังสั่งสมในสังคมไทยมาหลายทศวรรษ และในงานนี้ยังมีกิจกรรมบอร์ดเกมส์ชื่อ “เกมส์กำจัดอ้ายคนจน” โดยในส่วนพรรคการเมืองก็มีหลายพรรคส่งตัวแทนมาร่วมเกมส์พร้อมกับเปิดโอกาสได้แสดงวิสัยทัศน์ในการแก้ไขปัญหาความยากจน อาทิ นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หัวหน้าพรรคเกียน ,นายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส พรรคเพื่อไทย ,ดร.รยุศด์ บุญทัน จากพรรคเพื่อชาติ ,นายพชร นริพทะพันธุ์ พรรคไทยรักษาชาติ , นายพริษฐ์ วัชรสินธุ พรรคประชาธิปัตย์ ,นายรังสิมันต์ โรม พรรคอนาคตใหม่ น.ส.ธนิกานต์ พรพงษาโรจน์ พรรคพลังประชารัฐ และนายสุพจน์ อาวาส รองโฆษกพรรคประชาชาติ เป็นต้น

โดยตลอดเกมส์ในรอบตัวแทนพรรคการเมือง จะต้องเล่นจับคู่ร่วมกัน เพราะด้วยบอร์ดเกมส์ขนาดเท่าคนจริงนี้ กำหนดจำนวนสูงสุดเต็มที่ 11 คน ขณะที่มีตัวแทนพรรคการเมืองร่วมเล่นมากถึง 14 คน โดยไฮไลท์เด่นคือการจับคู่กันของพรรคเกียนและอนาคตใหม่ (นายสมบัติและรังสิมันต์ ซึ่งเดิมเป็นนักเคลื่อนไหว) เลือกเดินในช่องสายเคลื่อนไหวอย่างยื่นข้อเรียกร้อง จัดตั้งและสร้างรัฐสวัสดิการอย่างจริงจัง (ขณะที่พรรคอื่นยื่นอยู่ในช่องสายการเรียน ผู้ใช้แรงงาน เกษตรกรและผู้ค้าตลาดแบบดั้งเดิม) ซึ่งในการเดินทั้งคู่ก็มีการพูดปราศรัยเล็กน้อย พร้อมชวนผู้เล่นจากพรรคอื่นร่วมผลักดันข้อเรียกร้องซึ่งสามารถทำให้ทุกพรรคร่วมกันเสนอข้อเรียกร้องของตัวเองได้สำเร็จ สร้างเสียงหัวเราะและความสนุกสนานให้กับผู้ชมที่ร่วมชมกันเป็นอย่างดี

หลังจบเกมส์ ได้เปิดโอกาสให้ตัวแทนพรรคการเมืองร่วมแสดงความรู้สึกหลังเล่นและเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาหากได้ร่วมเป็นรัฐบาล โดยนายรยุศด์กล่าวว่า ประวัติศาสตร์การแก้จนในประเทศไทย ในสองสมัย ได้แก่ ยุคของหม่อมราชวงศ์ คึกฤทธิ์ ปราโมช และ ดอกเตอร์ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในระหว่างดำรงตำแหน่ง สองรัฐบาลนี้ถูกโจมตีเป็นอย่างมาก ในเรื่องของเงินรั่วไหล การคอร์รัปชั่นต่าง ๆ แต่เมื่อระยะเวลาผ่านมา ก็ปรากฎชัดเจนว่า ผลของการบริหารงานของสองรัฐบาลนั้น ช่วยยกระดับ ทำให้คนจนกลายเป็นชนชั้นกลางได้ มากที่สุดเท่าที่เคยมีรัฐบาลมา เราต้องเรียนรู้จากประวัติศาสตร์ เราต้องหยิบยกความสำเร็จในอดีตมาช่วยแก้ไขปัญหาปากท้องของพี่น้องทุกคน รวมถึงเราต้องชัดเจนก่อนว่า การแก้ไขปัญหาความยากจน ไม่ได้มุ่งแก้ไขให้คนจนเป็นคนรวย แต่จะทำอย่างไรในฐานะเป็นรัฐบาล ที่จะสามารถสร้างโอกาส และสามารถสร้างการจัดสรรทรัพยากร ให้มีความเสมอภาคและเท่าเทียม จะช่วยยกระดับให้ทุกกลุ่มชนในประเทศได้ โดยรัฐบาลมีหน้าที่สร้างระบบตลาดให้มีประสิทธิภาพ และมีโอกาสเอื้อให้กับทุกคนในประเทศ อีกประเด็นคือ การแก้ไขปัญหาความยากจนไม่ใช่แค่เรื่องในประเทศเท่านั้น เราต้องมองระดับสากลด้วย ณ วันนี้ องค์การสหประชาชาติ มองเรื่องปัญหาความยากจนเป็นวาระเร่งด่วน ดังนั้น เราจำเป็นต้องเรียนรู้วิธีแก้ปัญหาความยากจนจากต่างประเทศ เพื่อมาประยุกต์ใช้ในประเทศไทย

“หากพรรคเพื่อชาติได้มีโอกาสในการร่วมจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งเราไม่ได้สนใจว่าเราจะได้กี่ที่นั่ง แต่สิ่งที่เราปราถนาคือ การแก้ไขปัญหา ปากท้องของประชาชน จะทำอย่างไรให้พี่น้องประชาชนเดินไปสู่เป้าหมายปลายทาง ยกระดับคุณภาพชีวิต การกินดีอยู่ดีได้มากที่สุด หากเรามีโอกาสเข้าร่วมรัฐบาล เราจะเสนอให้ ปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ และปัญหาการท่องเที่ยว เป็นวาระแห่งชาติ สุดท้ายนี้ ตนขอฝากฝังไปยังพรรคการเมืองทุกพรรค ที่อยู่ฟากฝั่งประชาธิปไตย มาร่วมกันคิดว่าเราจะทำอย่างไร ให้พี่น้องประชาชนมาเลือกพรรคการเมืองที่อยู่ฟากฝั่งประชาธิปไตย ไม่สนับสนุนเผด็จการสืบทอดอำนาจ ด้วยเราเห็นแล้วว่า ที่ผ่านมาบ้านเมืองเราบอบช้ำจากเผด็จการมามากเพียงใด” นายรยุศด์ กล่าว

นายพชรกล่าวว่า ปัญหาความยากจนต้องถูกแก้ไขด้วย เทคโนโลยี ทลายกำแพงรัฐและ ลดภาระภาษีประชาชน ทำโอกาสให้ถึงคนจนโดยไม่พึ่งสังคมอุปถัมภ์ การลดภาระโครงสร้างสังคมที่กดคนจน เอื้อประโยชน์คนรวย โดยในกิจกรรม เข้าร่วมเล่นเกมส์ที่ออกแบบ มาให้รู้ว่า ชีวิตของคนจน ต้องพึ่งพาระบบสังคมที่สร้างขึ้นมาเป็นภาระของเขาอย่างไร และโอกาสที่จะประสบความสำเร็จมีน้อยแค่ไหน

ขณะที่ น.ส.ธนิกานต์ กล่าวว่า การยืนอยู่ในช่องรัฐสวัสดิการหรืออะไรก็แล้วแต่ จะมีผลกระทบกับทุกภาคส่วนในสังคม ไม่ว่าเรายืนในส่วนการศึกษาหรือค้าขาย นโยบายมีความสำคัญมากจริงๆ ส่วนเรื่องนโยบายในตอนนี้คงต้องรอผู้ใหญ่มาชี้แจงก่อน แต่โดยส่วนตัวในฐานะคนรุ่นใหม่ของพลังประชารัฐ การแก้ไขปัญหาความยากจนจะมี 2 ส่วน ระยะสั้นคือการสร้าง และระยะยาวคือการศึกษา ไม่ว่าคุณจะอยู่ในอาชีพไหน ถ้าได้รับการศึกษาที่เหมาะสม ก็ช่วยส่งเสริมรายได้ในการดำรงชีพต่อไป

ส่วนนายพริษฐ์ กล่าวว่า แม้จะเป็นเกมส์ที่สนุกสนานแต่ในชีวิตจริงก็ทำให้เห็นว่า ความยากจน หรือการมีรายได้น้อยนั้น เกิดจากปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้ ถ้าให้ทุกคนทำความเข้าใจถึงความเหลื่อมล้ำที่เกิดขึ้นว่า เป็นความเหลื่อมล้ำจากปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ ตราบใดที่พวกเขาไม่ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐ ได้รับโอกาสอย่างเท่าเทียมก็เป็นเรื่องยาก ผมพูดเสมอว่า ถ้ามีเด็ก 2 คนเกิดในไทย คนหนึ่งมีโอกาสไปไกลมากกว่า ต้องมาจากปัจจัยที่ควบคุมจากความสามารถไม่ใช่ปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้เช่นเกิดจังหวัดไหน หรือพ่อแม่ทำอาชีพอะไร ในส่วนพรรคประชาธิปัตย์ มีนโยบายแก้ไขความยากจนทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เรื่องเร่งด่วนที่สุดคือ ปัญหาปากท้องและราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ พรรคจะทำการประกันรายได้ให้กับคนไทยทุกกลุ่มอาชีพ อย่างเกษตรกรก็จะมีประกันราคาพืชผลโดยรัฐบาลสมทบส่วนต่าง แต่ไม่ได้ประกันจนทำลายกลไกตลาด แต่เป็นการรัฐช่วยชดเชยส่วนต่างที่เสียไป ส่วนผู้ใช้แรงงานอาจประสบปัญหาค่าครองชีพสวนทางกับรายได้ขั้นต่ำ แต่ต้องไม่ทำให้เกิดผลกระทบต่อผู้ประกอบการ หากมากเกินไปอาจทำให้ผู้ใช้แรงงานตกงานมากขึ้น ส่วนในระยะยาวเรามองถึงการศึกษา จะเป็นไปไม่ได้ที่ทำให้ความเหลื่อมล้ำหมดไปหากเยาวชนไม่ได้รับการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพตั้งแต่ต้นจนจบ

นอกจากนี้ นายตรีรัตน์กล่าวว่า การที่เล่นในช่องผู้ค้าทำให้รู้ว่าเป็นเรื่องยากมากในการมีธุรกิจของตัวเอง มีอุปสรรคมากมาย เท่าเทียบเรียนหนังสือก็ต้องกู้ รายจ่ายเยอะ มีความลำบาก แต่ก็ได้แหล่งเงินกู้ไม่คิดดอกเบี้ยช่วยไว้ (แซวทีมพรรคเกียน-อนาคตใหม่) สิ่งที่พรรคเพื่อไทยทำมาเสมอ หัวใจคือประชาชน เราสร้างโอกาสเพิ่มรายได้ ไม่ใช่ให้ห้าร้อย ไม่กี่วันก็หมด แต่ที่เราจะทำคือการลดรายจ่ายอย่างยั่งยืน โครงการสวัสดิการต่างๆต้องมี เพิ่มเบี้ยเลียงผู้สูงอายุ เช่นเดียวกับนายสุพจน์ที่ร่วมทีมกับนายตรีรัตน์กล่าวว่า เกมส์นี้เป็นการตอกย้ำความรู้สึก เราเริ่มที่หาบเร่แผงลอย แต่ตอนนี้สิ่งเหล่านี้ไม่มีแล้ว ไม่ได้อยู่ริมถนน แต่ซุกตามซอกซอย แผงลอยเป็นเสน่ห์ของกรุงเทพฯของประเทศ เพราะฉะนั้นเราต้องรื้อฟื้น สิงคโปร์กำลังทำหาบเร่ให้เป็นจุดขาย แต่เราไม่รู้ไปซุกไว้ไหน ทีนี้การแก้ไขปัญหาความยากจน เราไม่อยากเห็นการแก้ปัญหาแบบกลับด้าน ทุกวันนี้เราเห็นคนจนเหมือนขอทาน พอแบงก์ลงเงิน 500 เห็นทุกคนเข้าคิวรอรับเศษเงินที่ไม่รู้แหล่งที่มา (เสียงผู้ชมแทรกเข้ามาว่าภาษี) ปรากฎการณ์แบบนี้ พรรคการเมืองโดยพรรคประชาชาติจะสร้างงาน สร้างอาชีพ ลดรายจ่ายรวมทั้งบรรเทาเหตุฉุกเฉินเร่งด่วนให้กับคนไทยทุกคน แล้วต้องยุติการเก็บภาษีจากจังหวัดใหญ่ในภาคต่างๆมาใช้กับโครงการใหญ่ในกรุงเทพฯ แต่คืนรายได้กลับสู่ท้องถิ่น แต่ที่สำคัญคนที่แก้ไขปัญหาท้องถิ่นก็คือคนในท้องถิ่น เราจะโอนคืนสิ่งเหล่านี้ให้คนในชุมชนแก้ไขปัญหา และข้อสุดท้ายในการผลักดันนโยบายก็ขอให้พรรคที่สนับสนุนประชาธิปไตย ไม่ว่าเราได้เท่าไหร่ให้เรามารวมตัวกัน ไม่ให้คนนอกกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีก