เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม นายนราพัฒน์ แก้วทอง อดีต สส. พิจิตร เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า กรณีที่พรรคพลังประชารัฐ ออกมาคุยฟุ้งว่าจะได้จัดตั้งรัฐบาล ตนมองว่า การเลือกตั้งแบบใหม่ เขตพื้นที่เปลี่ยนไปค่อนข้างเยอะ เป็นการเลือกตั้งใบเดียวใครที่จะประเมินตัวเลขก็คงยากทั้งนี้ทั้งนั้นคงต้องดูกระแสประชาชนคิดเห็นอย่างไร ซึ่งแนวโน้มก็คือแบ่งกันชัดเจน ฝั่งหนึ่งเป็นกลุ่มผู้มีอำนาจรัฐ หรือกลุ่มของการสนับสนุนอำนาจรัฐหรือทหาร อีกฝั่งเป็นฝั่งกลุ่มเดิมกลุ่มเก่าที่ มีข้อครหาทุจริต คอร์รัปชั่นสูง ในส่วนของ ปชป. เป็นกลุ่มที่อยู่ตรงอยู่กลาง เน้นพูดถึงปัญหาประชาชน เน้นการแก้ปัญหาความปากท้องความเดือดร้อนประชาชน และแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นปัจจุปัน นโยบายส่วนใหญ่ ดูในเรื่องการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนระยะยาว

นายนราพัฒน์ กล่าวอีกว่า เพราะฉะนั้น อยู่ที่กระแสพี่น้อง ประชาชนอยากให้ใครเข้าไปทำงาน ซึ่งเป็นไปได้ทุกกรณี จะเป็นฝั่งพรรคพลังประชารัฐ อาจจะชนะฝั่งเพื่อไทย หรือ ไทยรักษาชาติ อาจจะชนะ หรือ ปชป. อาจจะชนะ ซึ่งต้องไปวัดที่ตัวนโยบายความตั้งใจที่ จะเข้าไปพัฒนาประเทศ เราอยากจะหลุดพ้นจากปัญหาเดิมๆ วังวนเดิมๆ ที่ มีการรวมกลุ่มของ บรรดาอดีต สส. มันก็เหมือนกับที่เขาพูดกันว่า เหล้าเก่าในขวดใหม่ สุดท้ายปัญหา ก็เหมือนเดิมสุดท้าย ก็เกิดปัญหา อีกในการแย่งชิงอำนาจ ในขณะที่สามารถสร้างกระแสให้ความหวัง ที่แก้ปัญหาอย่างยั่งยืนในปัญหาเศรษฐกิจ แก้ปัญหาปากท้องประชาชน ตรงนี้เป็นตัวกำหนดทิศทางว่าพรรคไหนที่จะได้เสียงข้างมากพรรคไหน ประชาชนจะให้การสนับสนุนมากกว่า ซึ่งวันนี้น่าจะก้าวข้ามนักการเมืองเก่าๆ ได้แล้ว

นายนราพัฒน์ กล่าวอีกว่า ดังนั้นการเลือกครั้งนี้ใครจะไปกำหนดตัวเลขตั้งความหวังไว้อาจ ไม่ได้เป็นที่หวัง เนื่องจาก การเลือกตั้งระบบนี้ไม่เคยเลือกตั้งมาก่อน กาใบเดียว มีคะแนนจากปาตี้ลิสต์มาจากการเลือกลงคะแนนครั้งเดียวได้ทั้งบัญชีรายชื่อตรงนี้ยากที่จะประเมิน ตัวเลขดังนั้นไม่ต้องมาคุย ขึ้นอยุ่กับประชาชน เป็นผู้ตัดสินใจ นายนราพัฒน์  กล่าว

ที่มา มติชนออนไลน์