หากเรียกตามภาษาการตลาด การ LAUNCH ผลโพลจากพรรคเพื่อไทยมากด้วยความละเอียดอ่อน มากด้วยความอ่อนไหวทางการเมือง

ไม่เพียงเพราะจำนวน 290 เสียงที่จะได้มาจากการเลือกตั้งจะก่อความหวาดผวา

หากแต่ยังล่อแหลมต่อ “ความเชื่อ” เป็นอย่างสูง

จึงปรากฏ “รายละเอียด” ของการโต้แย้งกันภายในพรรคเพื่อไทยที่หลายฝ่ายไม่เห็นด้วย กลายเป็น “ควันหลง” ปลิวว่อนปรากฏมาอย่างคึกคัก

แต่ในที่สุดฝ่ายยุทธศาสตร์ของพรรคก็ตัดสินใจปล่อยออกมาในวันเดียวกับที่ “น้องเจนนี่”เดินเรียงเคียงคุณหญิงแม่ที่ประตูน้ำ

ผลก็คือเกิดบรรยากาศ”เพื่อเธอ” พร้อมกับ “เพื่อไทย”

มีอาการนะจังงัง ไม่ว่าจะมาจากพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าจะมาจากพรรครวมพลังประชาชาติไทย ไม่ว่าจะมาจากพรรคพลังท้องถิ่นไท

ส่งผลให้เกิดการเคลื่อนไหวในพรรคประชาชนปฏิรูปโดย นายไพบูลย์ นิติตะวัน

เห็นด้วยกับการจะ “เลื่อน” การเลือกตั้ง

เท่ากับสะท้อนให้เห็นว่า มีความเชื่อโดยพื้นฐานอยู่แล้วว่า ผลการเลือกตั้งจะออกมาอย่างไร

นั่นก็คือ เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยจะต้องกำชัยชนะ

เหมือนที่เคยกำชัยมาแล้วเมื่อเดือนมกราคม 2544 เหมือนที่ เคยกำชัยมาแล้วเมื่อเดือนธันวาคม 2550 ภายหลังการรัฐประหาร เมื่อเดือนกันยายน 2549

และกำชัยมาแล้วเมื่อเดือนกรกฎาคม 2554 แม้จะถูกปราบปราม เข่นฆ่าในเดือนเมษายน พฤษภาคม 2553

ยิ่งกำชัยมากถึง 290 เสียง ยิ่งชวนให้ตื่นตระหนก

จากนี้จึงเห็นได้ว่า การ LAUNCH ผลโพลตามแผนการตลาดของพรรคเพื่อไทยก่อให้เกิดผลข้างเคียงอย่างเหนือความคาดหมาย

ที่สำคัญก็คือ ก่อให้เกิด “ความเชื่อ” แม้จะเสมอเป็น”โพล”

ขณะเดียวกัน ความเชื่อนั้นแหละนำไปสู่ความกลัวและอาจ ทำให้เกิดการยื้อ ถ่วง หน่วง การเลือกตั้งออกไป

หรือถึงกับไม่อยากให้มี “การเลือกตั้ง”เกิดขึ้น