พนง.ออฟฟิศเสี่ยงตกงาน / หอค้าไทย-ตลาดทุนชี้ความเชื่อมั่นลด / แบงก์ชาติห่วงส่งออกส่อหลุดเป้า

หอค้าไทย-ตลาดทุนชี้ความเชื่อมั่นลด

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยเดือนตุลาคม 2561 ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 เนื่องจากผู้บริโภคมีความกังวลเกี่ยวกับปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ที่ส่งผลกระทบต่อทั่วโลก ปัญหาการลดลงของนักท่องเที่ยวจีนในไทย ปัญหาราคาสินค้าเกษตร อาทิ ข้าว มันสำปะหลัง และยางพารา ยังไม่ปรับตัวเพิ่มขึ้นและปัญหาราคาน้ำมัน ส่งผลให้กำลังซื้อชะลอตัวลง ขณะที่นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (เฟทโก้) กล่าวว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนเดือนตุลาคม 2561 ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน มาจากความกังวลเรื่องผลกระทบนโยบายทางการเงินของสหรัฐ และสถานการณ์สงครามการค้าสหรัฐกับจีน ที่ยังยืดเยื้อและไม่มีความชัดเจน

ธ.ก.ส.หวั่นพักหนี้ฉุดกำไรลด

นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ธ.ก.ส.ได้ขยายการแจ้งความประสงค์เข้าโครงการพักชำระหนี้เกษตรกร 3.81 ล้านคนออกไปถึงเดือนธันวาคม 2561 เนื่องจากพนักงาน ธ.ก.ส.ทำไม่ทัน เพราะต้องให้เกษตรกรมาแจ้งความประสงค์เป็นรายบุคคล ทั้งนี้ ในช่วง 1 ปีแรกที่มีโครงการลดดอกเบี้ยเงินกู้ให้แก่เกษตรกร จึงคาดว่าในปีบัญชี 2561 ผลกำไรอาจสูงไม่ถึง 10,000 ล้านบาท จากในปีบัญชี 2560 มีกำไรสุทธิ 9,863 ล้านบาท ผลมาจากการพักหนี้เงินต้น ทำให้ธนาคารต้องปรับสินเชื่อจ่ายในปีบัญชี 2561 ใหม่เหลือประมาณ 5 แสนล้านบาท จากเป้าหมายกำหนดไว้ 7.1 แสนล้านบาท และล่าสุดธนาคารจ่ายสินเชื่อไปแล้ว 3 แสนล้านบาท

ธุรกิจไฮเทคต่างชาติลงทุนไทย

นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว เดือนตุลาคม 2561 ได้อนุญาตให้คนต่างด้าว 32 ราย ประกอบธุรกิจในประเทศไทย เพิ่ม 68% โดยส่วนใหญ่เป็นคนต่างด้าวจากญี่ปุ่น สิงคโปร์ และบริติชเวอร์จิน ซึ่งมีการนำเงินเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจกว่า 1,691 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็น 1,457 ล้านบาท หรือคิดเป็น 632% ประเภทธุรกิจ อาทิ บริการส่งผ่านข้อมูลข้อความ รูปภาพ หรือเสียงทางโทรศัพท์เคลื่อนที่ บริการออกแบบแม่พิมพ์โลหะสำหรับใช้ในกระบวนการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์บริการทดสอบ บริการให้ใช้ช่วงสิทธิโปรแกรมซอฟต์แวร์สำหรับบริหารจัดการธุรกิจรักษาสุขภาพ

พนง.ออฟฟิศเสี่ยงตกงาน

นายพชรพจน์ นันทรามาศ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส โกลบอล บิซิเนส ดีเวลอปเม้นต์ แอนด์ สตาร์ติจี ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ธนาคารได้วิจัยเรื่องระบบอัตโนมัติ (ออโตเมชั่น) และการปรับตัวของมนุษย์เงินเดือนในกลุ่มมิลเลนเนียล เป็นกลุ่มที่อยู่ในวัยทำงาน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่จะมีการนำออโตเมชั่นมาใช้แพร่หลายในออฟฟิศ พบว่า 50% ของบริษัทในกลุ่มตัวอย่างจากหลายประเทศทั่วโลก คาดว่าออโตเมชั่นจะกระทบการจ้างงานแบบเต็มเวลา ภายในปี 2565 ซึ่งขณะนี้บริษัทขนาดใหญ่ของไทย ต่างก็มีแผนจะนำออโตเมชั่นมาใช้งานเพิ่มมากขึ้น แม้ไม่มีการลดจำนวนพนักงานลงด้วยการเลิกจ้าง แต่ก็เตรียมปรับโครงสร้างองค์กร

ชูอาเซียนเชื่อมรถไฟไร้รอยต่อ

นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า กระทรวงได้นำเสนอแผนการพัฒนาระบบรางของไทยที่มีแผนการลงทุนค่อนข้างใหญ่กว่าประเทศอื่นๆ เมื่อเทียบกับประเทศในอาเซียน ซึ่งมองว่าควรมีการออกแบบระบบรางให้ไร้รอยต่อในการเดินทางและต้องพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์บริเวณรอบสถานี (ทีโอดี) ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมถึงหลังจากมีรถไฟทางคู่แล้วจะต้องการศึกษาเส้นทางที่เหมาะสมจะให้มีรถไฟไฟฟ้า ซึ่งระบบรางของไทยยังถือเป็นศูนย์กลางของอาเซียนอีกด้วย เพราะเชื่อมต่อทางบกอยู่แล้ว กับกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวีที ประกอบด้วย กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม และไทย

เชื่อมข้อมูลเลขหมายยืนยันตัวตน

นายก่อกิจ ด่านชัยวิจิตร รองเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า กสทช.ได้ร่วมกับ 20 สถาบันการเงินและโอเปอเรเตอร์อีก 6 ราย เพื่อร่วมมือในการเชื่อมต่อข้อมูลระหว่างผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่และสถาบันการเงินในการให้บริการพร้อมเพย์ และธุรกรรมทางการเงินอื่นๆ ซึ่งสำนักงาน กสทช.ได้สนับสนุนการใช้รหัส USSD *179 เพื่ออำนวยความสะดวกในการลงทะเบียนพร้อมเพย์ผูกกับเบอร์โทรศัพท์มือถือ โดยเป็นความร่วมมือของผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ กับสถาบันการเงินเพื่อยืนยันข้อมูลหลังบ้าน ซึ่งสามารถใช้งานระบบได้ในวันที่ 1 มกราคม 2562

แบงก์ชาติห่วงส่งออกส่อหลุดเป้า

นางสาวพรเพ็ญ สดศรีชัย ผู้อำนวยการสำนักวิเคราะห์ภาวะเศรษฐกิจ ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ตัวเลขประมาณการส่งออกปี 2561 อาจจะต่ำกว่าที่ ธปท.ประเมินไว้ว่าจะขยายตัวที่ 9.0% เนื่องจากการส่งออกรถยนต์ไปออสเตรเลียชะลอลง ผลกระทบจากมรสุมกระทบต่อการส่งออกไปยังญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์และฮ่องกง การเร่งการส่งออกเครื่องซักผ้าและโซลาร์เซลล์ไปในช่วงปีก่อนที่จะมีมาตรการกีดกันทางการค้าของสหรัฐ รวมทั้งฐานสูงจากการส่งออกทองคำในปี 2560 ทำให้ช่วง 9 เดือนแรกปี 2561 ส่งออกขยายตัวได้ 8.1%

ดังนั้น ในช่วงไตรมาสที่ 4/2561 การส่งออกจะต้องขยายตัว 11.4% จึงจะได้ตามที่คาดการณ์ไว้