เส้นตาย ณ 26 พฤศจิกายน เส้นแบ่ง “พลัง” กับ “เพื่อ” ชัด

พลันที่มีการจัดทัพประจันหน้ากันระหว่างพรรคตระกูล “พลัง”กับ พรรคตระกูล “เพื่อ” ก็ก่อให้เกิดการเลือกข้างในทางการเมืองขึ้นโดยอัตโนมัติ

นั่นก็คือ จะอยู่กับพรรคตระกูล “พลัง” หรือว่าจะอยู่กับพรรคตระกูล “เพื่อ”

แม้ว่าจะมีความพยายามจากพรรคประชาธิปัตย์โดย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พยายามจะสร้างพรรคฝ่ายที่ 3 ตามแนวทางการ เมืองในแบบ “สามก๊ก” ขึ้น

โดยพรรคประชาธิปัตย์คือ พรรคทางเลือกที่ 3 นอกเหนือจาก พรรคตระกูล “พลัง” และพรรคตระกูล “เพื่อ”

แต่ในที่สุดแล้วก็มิอาจหนีพ้นไปจาก 2 ทางเลือกนี้ได้

 

หากดูจากปริมาณคล้ายกับว่าพรรคตระกูล “พลัง” จะมีความเหนือกว่าพรรคตระกูล “เพื่อ”

เห็นได้จากความคึกคักของพรรคพลังประชารัฐ

เมื่อประสานเข้ากับพรรครวมพลังประชาชาติไทย พรรคพลังท้องถิ่นไท พรรคพลังชาติไทย พรรคพลังพลเมืองไทย พรรคพลังธรรมใหม่ และที่สุดคือพรรคพลังชล

สร้างความอบอุ่นให้กับพรรคพลังประชารัฐเป็นอย่างสูง

กระนั้น ภายในพรรคตระกูล “พลัง” นอกเหนือจากพรรคพลังชลและพรรครวมพลังประชาชาติไทยแล้ว นอกนั้นก็ล้วนเป็นพรรคหน้าใหม่

และรวบรวมพละกำลังมาจาก “พลังดูด”

ขณะที่ภายในพรรคตระกูล “เพื่อ” อันมีพรรคเพื่อไทยเป็นทัพหลวง ก็ล้วนแต่เป็นการต่อยอดมาจากพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน

อย่าลืมเป็นอันขาดว่า พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน พรรคเพื่อไทย ครองความเป็นพรรคอันดับ 1 มาอย่างยาวนาน

แม้กระทั่งพรรคประชาธิปัตย์ก็มิอาจต่อกรได้

 

พลันที่โรดแมปการเลือกตั้งก้าวไปถึงวันที่ 26 พฤศจิกายนซึ่งเป็นเส้นตายของการเลือกพรรคสังกัด

ภาพทุกภาพก็จะมีความแจ่มชัด

แจ่มชัดว่าใครจะอยู่กับพรรคตระกูล”พลัง” แจ่มชัดว่าใครจะอยู่กับพรรคตระกูล”เพื่อ”

เหลือเพียง 2 แนวทางนี้เท่านั้น ไม่มีหนทางที่ 3