ตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ ๒๒/๒๕๕๘ เรื่อง มาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแข่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในทางสาธารณะ ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้จัดตั้งคณะทำงานปราบปรามการแข่งขันรถในทางสาธารณะ โดย ผบ.ตร.ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.ผบช.สตม. เป็น หน.ชุดปฏิบัติการรองรับการดำเนินการตามคำสั่ง คสช. ดังกล่าว
โดยในวันนี้ (๓ พ.ย. ๖๑) เวลาประมาณ ๐๑.๐๐ น. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.ผบช.สตม.หน.ชุดปฏิบัติการตามคำสั่ง ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผบก.น.๒, พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รรท.ผบก.จร., พ.ต.อ.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบก.อก.บช.ปส.,พ.ต.อ.คณิต กลิ่นศรีสุข ผกก.กก.ต่อต้านการก่อการร้าย บก.สปพ., พ.ต.อ.ชัชชัย สำเนียง ผกก. ๕ บก.จร.,พ.ต.อ.กฤตภาส กิตติรัฐกรณ์ ผกก.ฝอ.บก.จร.,พ.ต.ท.เจษฎา ยางนอก รอง ผกก.๒ บก.จร. แถลงผลการปฎิบัติการของเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง,กองบัญชาการตำรวจนครบาล,กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด, กองบังคับการตำรวจนครบาล ๒, กองบังคับการตำรวจจราจร และกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ ได้สนธิกำลังร่วมกันปราบปรามการแข่งรถในทางสาธารณะในพื้นที่ บก.น.๒ และจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาที่ถ่ายทอดสดและโพสเฟสบุ๊คชักชวนให้เด็กและเยาวชนออกมารวมกลุ่มแข่งรถในทางสาธารณะที่ปรากฏตามสื่อต่างๆหลายแขนง จึงได้รวบรวมผลการปฏิบัติดังกล่าวมีรายละเอียดดังนี้

– ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาแอดมินเพจตามหมายจับจำนวน ๑ ราย จากการสืบสวนทราบว่ามีเพจเฟสบุ๊คชื่อ เค้าเรียก เพจอะรัย ซิ่ง (Racing)” มีพฤติกรรมโพสต์ชักชวนให้กลุ่มวัยรุ่นออกมารวมตัวมั่วสุมแข่งรถในทางสาธารณะบริเวณถนนวิภาวดี-รังสิต หน้า ม.เซนต์จอห์น ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งโดยในการแข่งขันแต่ละครั้งมีการรวมตัวกันมากกว่า ๑๐๐ คัน และถ่ายทอดสดลงในเฟสบุ๊คซึ่งมีกลุ่มวัยรุ่นสนใจรับชมและแชร์ต่อเป็นจำนวนมาก ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวได้สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชนผู้พักอาศัยในพื้นที่เกิดเหตุและใกล้เคียง และผู้ใช้รถใช้ถนนเป็นอย่างมาก โดยเจ้าของเพจเฟสบุ๊คดังกล่าวคือ นายธรรมรัตน์ สว่างสุข อายุ ๓๒ ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้จับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับในความผิดฐาน “เป็นผู้สนับสนุนให้มีการแข่งขันรถในทางสาธารณะ” ดำเนินคดีตามกฎหมายหมายจับที่ ๘๒ เพจที่ ๙๘ ที่มีการถูกปิดไป

– เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกับ เจ้าหน้าที่สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ตรวจค้นร้านจำหน่ายท่อไอเสียที่ไม่ได้มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมและร้านแต่งรถจักรยานยนต์ที่เป็นบ่อเกิดของปัญหาที่ส่งเสริมและสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนแต่งรถซิ่ง สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชนซึ่งมีผลการปฏิบัติดังนี้ ตรวจค้นร้านท่อเสีย ๕๕ ร้านและยึดท่อไอเสียไว้ตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่ สมอ. จำนวน ๑๓๒ รายการ เป็นหมวกกันน็อค ๑๐ รายการ
– เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกับสถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติในการตรวจวัดระดับเสียงและการวัดค่ามาตรฐานที่ถูกต้องตามหลักสากล และกรมควบคุมมลพิษตรวจวัดระดับเสียงท่อไอเสียที่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด (๙๕ เดซิเบล) ซึ่งเป็นปัญหาที่สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมากโดยตรวจรถจักรยานยนต์คันใหญ่ (บิ๊กไบค์) จำนวนทั้งหมด ๙๕ คัน พบมีท่อไอเสียเสียงดังเกินกว่ามาตรฐานกำหนดจำนวน ๕๔ คัน จึงได้ออกคำสั่งห้ามใช้รถเป็นเวลา ๓๐ วัน
-ตรวจยึดรถจักรยานยนต์และควบคุมตัวเด็กและเยาวชนที่ฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.ที่ ๒๒/๒๕๕๘ และ ๔๖/๒๕๕๘ โดยได้ยึดรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยจำนวน ๑๓๕ คัน แบ่งเป็นรถจักรยานยนต์ ๑๑๐ คัน รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ ๒๕ คัน และควบคุมตัวเด็กและเยาวชนได้จำนวน ๕๓ ราย ผู้ใหญ่ ๕๖ ราย รวมทั้งหมด ๑๐๙ ราย โดยตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด พบสารเสพติดประเภทเมทแอมเฟตามีนในปัสสาวะ ๓ ราย แบ่งเป็นผู้ใหญ่ ๒ ราย เยาวชน ๑ ราย นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
จากนั้นจึงได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรวมทั้งพ่อแม่ผู้ปกครองของเด็กและเยาวชนในพื้นที่ บก.น.๒ ได้ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหากลุ่มวัยรุ่นรวมตัวแข่งขันรถในทางสาธารณะและผู้ขับขี่รถจักรยายนต์คันใหญ่ (บิ๊กไบค์) ว่าก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญแก่ประชาชนเป็นจำนวนมาก ทั้งยังส่งผลร้ายตามมาอีกมากมายและรณรงค์ให้ประชาชนในพื้นที่ช่วยกันปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลโดยอบรมบุตรหลานไม่ให้ออกมารวมตัว มั่วสุมหรือมีพฤติกรรมแข่งขันรถในทางสาธารณะ ส่วนเด็กและเยาวชนที่มีพฤติกรรมแข่งขันรถในทางสาธารณะ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการส่งตัวไปเข้ารับการอบรมตามวันเวลาที่จะกำหนดต่อไป