แร็พเปอร์เพลง “ประเทศกูมี” ตอบอะไร เมื่อ “จักรทิพย์” เสนอแต่งเพลงชวนท่องเที่ยว

วันที่ 31 ตุลาคม 2561 จากกรณีพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) กล่าวถึง กรณีเพลงแร็พ ประเทศกูมี ว่า ก็เป็นการแสดงของศิลปิน เรื่องนี้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร.ด้านความมั่นคงก็ทราบดีอยู่แล้วในนโยบาย

“อยากให้ศิลปินที่ทำเพลงนี้ออกมาทำในทุกมิติด้วย เชิงท่องเที่ยวบ้างก็ได้ ร้องเพลงเชิงท่องเที่ยว เชิงอนุรักษ์ประเทศไทย ไหนๆจะทำแล้วก็ทำอีกเวอร์ชั่น เชิงท่องเที่ยวที่เป็นประโยชน์กับประเทศ เชิญชวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ เชิญมาเที่ยวบ้านเรา สถานที่ท่องเที่ยวมีเยอะแยะ ไม่ใช่มีแต่ที่พูด ยังมีเรื่องอื่นอีกมากมายหลายอย่าง ไหนๆจะทำแล้ว ทำให้ทุกมิติเลยก็ดี หากไม่มีอคติอะไร ไม่มีเรื่องการเมืองมาเกี่ยวข้องอะไรก็แล้วแต่ จริงๆผมไม่อยากพูดหรอก พูดไปก็เป็นลบ ตอนนี้ยอดวิวเป็นสิบๆล้านวิวแล้ว แต่ก็อยากนำเสนอบ้างในเมื่อมันเป็นประชาธิปไตย ก็ขอเสนอให้ทำเรื่องท่องเที่ยวบ้าง หรืออะไรเชิงอนุรักษ์ของไทยบ้าง” พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าว

ด้านกลุ่มศิลปิน Rap Against Dictatorship (แร็พต่อต้านเผด็จการ) เจ้าของผลงานเพลง 23 ล้านวิวอย่าง “ประเทศกูมี” ได้แสดงความคิดเห็นต่อข้อเสนอของพล.ต.อ.จักรทิพย์ ระหว่างเสวนา “ศิลปะ อำนาจ และการขัดขืน” ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา โดยนายณัฐพงศ์ ศรีม่วง หรือ นัท Liberate P แสดงความเห็นเป็นคนแรกว่า เพลงแร็พนั้นไม่ใช่เพลงรณรงค์ เป็นการพูดในสิ่งที่เราอยากพูด ผมพูดตรงๆเลยว่า ก่อนหน้านี้ที่ทำเพลงการเมืองเหมือนกัน ก็เคยมีคนชวนทำเพลงรณรงค์เพื่อไปเลือกตั้งหรือโหวตโนประชามติ ผมตอบกลับไปว่า “เพลงแร็พไม่ใช่เพลงรณรงค์” ไม่ว่าจะในแง่ของฝ่ายที่เห็นด้วยหรือไม่ก็แล้วแต่ ไม่ใช่เพลงที่เราออกมาพูดว่า ไปเถอะ พวกเราไปเลือกตั้งกันเถอะ ผมว่าตลกมากเลย

ขณะที่ เดชาธร บำรุงเมือง หรือฮอร์ค หนึ่งในศิลปินของ RAD กล่าวว่า อาจจะไม่ได้ใช้คำว่ารณรงค์ เพราะยังมีแร็พเปอร์อีกหลายคนที่เป็นประเภท Represent Hometown (ศิลปินเล่าเรื่องบ้านเกิดเมืองนอน) แต่เขาไม่พูดว่า มาเที่ยวกันเถอะ แต่พูดในมุมว่าภูมิใจ เอาข้อดีหรือมุมที่มีอยู่ตรงนั้น รู้สึกอย่างนั้น พูดออกมาในทำนองเพลงแร็พ

ส่วน อาร์ท อีกหนึ่งศิลปินของ RAD กล่าวว่า ผมอาจเห็นต่างนิดนึง ผมคิดว่าแร็พมันทำอะไรก็ได้ จะรณรงค์ก็ได้ แต่ว่า ประเด็นผมมีอยู่ข้อเดียวคือไม่รู้จะทำไปทำไม เพราะว่าตอนที่เราทำเพลงขึ้นมา เราทำด้วยเหตุผลที่ว่า อยากให้เป็นเพลงแบบนี้เกี่ยวกับสังคม แต่ว่าเราไม่ได้ยิน เราทำในแบบที่เราอยากฟังออกมาเอง ส่วนเพลงรณรงค์เรื่องการท่องเที่ยว ผมว่าประเทศเรามีกันจนฟังไม่ครบแล้ว ก็คงไม่จำเป็นต้องทำ