อังกฤษซัดหน่วยข่าวกรองทัพรัสเซียอยู่เบื้องหลังการโจมตีไซเบอร์ทั่วโลก

วันที่ 4 ตุลาคม 2561 สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ศูนย์ความมั่นคงไซเบอร์แห่งชาติของอังกฤษหรือเอ็นซีเอสซี กล่าวหาหน่วยข่าวกรองรัสเซียอยู่เบื้องหลังสั่งการโจมตีทางไซเบอร์โดยพุ่งเป้าไปยังชาติตะวันตกด้วยการสร้างความสับสนปั่นป่วนตั้งแต่กีฬา การขนส่ง ไปจนถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯเมื่อปี 2016

โดยเอ็นซีเอสซีกล่าวว่า จากโปรแกรมตรวจสอบพบว่า หน่วยข่าวกรองของกองทัพรัสเซียหรือจีอาร์ยู มีบทบาทเป็นผู้รุกรานไซเบอร์สุดอันตรายซึ่งใช้เครือข่ายแฮกเกอร์แพร่กระจายความวุ่นวายไปทั่วโลก โดยจีอาร์ยู อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ “แบดแรบบิท” และการโจมตี เวิล์ด แอนตี้-ดอปปิ้งในปี 2017 เจาะเข้าระบบคณะกรรมการประชาธิปไตยแห่งชาติในปี 2016 และขโมยอีเมล์จากสถานีโทรทัศน์ของอังกฤษในปี 2015

นายเจเรมี่ ฮันท์ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษกล่าวว่า การกระทำของจีอาร์ยูเสี่ยงและตามอำเภอใจ พยายามบั่นทอนและแทรกแซงการเลือกตั้งในหลายประเทศ ข้อความของเรานั้นชัดเจน จงร่วมมือกันกับชาติพันธมิตรเรา เราจะเปิดโปงและตอบโต้ความพยายามบั่นทอนเสถียรภาพประชาคมโลกของจีอาร์ยู และอังกฤษเชื่อว่ารัฐบาลรัสเซียมีส่วนรับผิดชอบต่อการโจมตีเหล่านี้

นายฮันท์ยังกล่าวว่า จีอาร์ยูร่วมมือกับแฮกเกอร์กลุ่มต่างๆในรัสเซียไม่ว่า เอพีที28,แฟนซีแบร์, โซฟาซี, พอนสตรอม,ไซเบอร์กาหลิบ, ไซเบอร์เบอร์คุท,วูดูแบร์และแบล็กเอเนอร์จี้ แอคเตอร์ โดยรูปแบบของพฤติกรรมนี้ แสดงให้เห็นถึงความปรารถนาที่จะดำเนินงานโดยไม่คำนึงถึงกฎหมายระหว่างประเทศหรือบรรทัดฐานที่กำหนดขึ้นและทำเช่นนั้นโดยไม่รู้สึกสำนึกผิดและไม่สนใจผลลัพธ์ที่ตามมา

สำหรับ ความเกี่ยวข้องระหว่างจีอาร์ยูกับการโจมตีไซเบอร์ในประเทศอื่นนั้น สหรัฐฯได้คว่ำบาตรเจ้าหน้าที่จีอาร์ยูหลายคนรวมถึง อิกอร์ โคโรบอฟ หัวหน้าหน่วยจีอาร์ยู จากการแทรกแซงการเลือกตั้งในปี 2016 และการโจมตีอีกหลายครั้ง

ขณะที่ ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์สนับสนุนการค้นพบครั้งนี้ โดยนายสก๊อต มอริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียระบุว่า ไซเบอร์สเปซไม่ใช่แดนเถื่อน แต่เป็นประชาคมโลก รวมถึงรัสเซียก็เห็นด้วยว่ากฎหมายระหว่างประเทศและค่านิยมความรับผิดชอบของรัฐต้องปรับใช้กับโลกไซเบอร์ แต่สิ่งที่ปรากฎถึงพฤติกรรมบนไซเบอร์ที่เป็นอันตรายนี้ รัสเซียแสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่ยอมรับข้อตกลงที่ช่วยเหลือพวกเขาในการเจรจาต่อรอง