เวที กกต.พบพรรคการเมือง คึกคัก 59 พรรค 84 กลุ่มเข้าร่วมรับฟัง

เวที กกต.พบพรรคการเมือง คึกคัก 59 พรรค 84 กลุ่มเข้าร่วมรับฟังการชี้แจง “ประธาน กกต.เน้นย้ำที่ต้องเร่งดำเนินการ หวั่นทำไม่ทันสิ้นสภาพ-ส่งผู้สมัครไม่ได้ เผย กกต.จว.เริ่มปิดประกาศแบ่งเขต 3 รูปแบบเพื่อรับฟังความเห็น 4-13 ต.ค.นี้

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 28 กันยายน ที่โรงแรมเซ็นทารา ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดการประชุมชี้แจงแนวทางการดำเนินกิจการแก่พรรคการเมืองและผู้ขอแจ้งเตรียมการจัดตั้งพรรคการเมือง เพื่อชี้แจงแนวทางการดำเนินกิจการของพรรคการเมืองตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และเรื่องที่เกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง โดยมีนายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการ กกต. กรรมการ กกต.ทั้ง 4 คน พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. และนายทะเบียนพรรคการเมือง นายแสวง บุญมี รองเลขาธิการพรรค และผู้บริหารสำนักงาน เข้าร่วม

ทั้งนี้ มีพรรคการเมือง กลุ่มขอแจ้งเตรียมการจัดตั้งพรรคการเมือง ตอบรับเข้าร่วม จำนวน 59 พรรค 84 กลุ่ม รวมจำนวน 451 คน อาทิ พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายจุติ ไกรฤกษ์ เลขาธิการพรรค พรรคเพื่อไทย พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรค นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรค นายชูศักดิ์ ศิรินิล พรรคชาติไทยพัฒนา นายธีระ วงศ์สมุทร หัวหน้าพรรค นายวราวุธ ศิลปอาชา ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคภูมิใจไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานที่ปรึกษาพรรค นายทรงศักดิ์ ทองศรี รองหัวหน้าพรรค และนายศุภชัย ใจสมุทร รองเลขาธิการพรรค พรรคชาติพัฒนา นายวรรณรัตน์ ชาญนุกูล หัวหน้าพรรค พลังประชารัฐ นายวิเชียร ชวลิต พรรคอนาคตใหม่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล นายชำนาญ จันทร์เรือง นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ ตัวแทนกลุ่มเกียน เป็นต้น

จากนั้นเวลา 09.30 น. โดยนายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. กล่าวชี้แจงแนวทางจัดการเลือกตั้งครั้งแรกหลังการประกาศใช้รัฐธรรมนูญว่า ขณะนี้เริ่มมีความชัดเจนเกี่ยวกับการเลือกตั้งแล้ว โดย กกต.ได้ทยอยออกระเบียบต่างๆ สำหรับการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญใหม่กำหนดให้มีส.ส. 500 คน แบบแบ่งเขต 350 คน บัญชีรายชื่อ 150 คน การลงคะแนนใช้บัตรเลือกตั้งเพียงใบเดียว คือแบบแบ่งเขต แล้วนำคะแนนไปคำนวณจำนวนสมาชิกแบบบัญชีรายชื่อ นอกจากนี้ คะแนนดังกล่าวยังมีผลต่อการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีด้วย ถือว่า กากบาทเลือก 1 ครั้ง ส่งผลถึง 3 ด้าน คือ ส.ส.แบ่งเขต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเสนอชื่อนายกฯ

ประธาน กกต.กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมของพรรคการเมืองก่อนการเลือกตั้งว่า ปัจจุบันมีกลุ่มการเมืองที่ขอแจ้งเตรียมการจัดตั้งพรรคการเมืองต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง 119 กลุ่ม มีพรรคที่ผ่านการรับรองจาก กกต. 6 พรรค และในช่วงบ่ายวันนี้ (28 กันยายน) กกต.จะประชุมพิจารณาให้ความเห็นชอบอีก 2 พรรค เบื้องต้นจึงมีพรรคการเมืองเก่าและใหม่ที่จดทะเบียนถูกต้องได้รับการรับรองทั้งสิ้นแล้ว 74 พรรค สำหรับพรรคเก่ามีหลักเกณฑ์ต้องดำเนินการ คือ ต้องมีทุนประเดิม 1 ล้านบาท และต้องจัดให้มีสมาชิกไม่น้อยกว่า 500 คน ชำระค่าบำรุงไม่น้อยกว่า 500 บาท ภายใน 180 วันซึ่งนับตั้งแต่ 14 กันยายน ในกรณีที่พรรคการเมืองดำเนินการไม่ทันขอขยายเวลาได้ 180 วัน จากนั้นหากทำไม่ทันให้ถือว่าพรรคนั้นสิ้นสภาพไป อย่างไรก็ตาม ในกรณีค่าบำรุงพรรคการเมืองคำสั่งคสช.ผ่อนปรนให้ชำระได้ไม่น้อยกว่า 50 บาทต่อคน

นายอิทธิพรกล่าวอีกว่า กรณีพรรคการเมืองใหม่ ต้องเร่งจัดทำคำประกาศอุดมการณ์การเมืองและนโยบายพรรค ให้ครบถ้วนสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ขอให้หัวหน้าพรรคดำเนินการให้ครบถ้วน และต้องการเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคให้ครบถ้วน แล้วเสร็จก่อน 90 วัน หรือก่อนวันที่ 10 ธันวาคมนี้ หากไม่แล้วเสร็จขอขยายเวลาได้อีก 90 วัน เมื่อสิ้นสุดเวลายังดำเนินการไม่ทันพรรคนั้นจะไม่สามารถส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง และ กกต.ไม่สามารถจัดสรรเงินกองทุนพัฒนาพรรคการเมืองให้ได้

นายอิทธิพรกล่าวถึงการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคการเมืองว่า จะประกอบไปด้วยกรรมการบริหารพรรค 4 คน ตัวแทนสมาชิก 7 คน พิจารณาสรรหารผู้สมัครโดยให้คำนึงถึงตัวแทนจากภูมิภาคต่างๆ โดยเสนอชื่อให้กรรมการบริหารพรรคเพื่อให้ความเห็นชอบ สำหรับการเตรียมความพร้อมการจัดการเลือกตั้งของสำนักงาน กกต.นั้น ขณะนี้ กกต.ได้ออกระเบียบว่าด้วยการแบ่งเขตเลือกตั้ง ประกาศจำนวน ส.ส.แบบแบ่งเขต และจำนวนเขตเลือกตั้งแล้ว โดยระยะเวลาแบ่งเขตต้องแล้วเสร็จภายใน 53 วัน สามารถประกาศในราชกิจจานุเบกษาได้ในวันที่ 10 พฤศจิกายนนี้ เพื่อให้พรรคการเมืองมีเวลาหาสมาชิก ทั้งนี้ กกต.จังหวัดจะเสนอรูปแบบการแบ่งเขตจำนวน 3 รูปแบบ และเริ่มปิดประกาศเพื่อรับฟังความเห็นจากพรรคการเมืองและประชาชน ในระหว่างวันที่ 4-13 ตุลาคมนี้