เมื่อวานนี้ (16 กันยายน 2561) สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า นักเคลื่อนไหวหนุ่มสาวและสื่อมวลชนพม่าร่วม 100 คน ได้ทำกิจกรรมเรียกร้องให้ปล่อยตัว นายวา โลนและจ่อ โซ อู 2 นักข่าวรอยเตอร์สชาวพม่าของสำนักข่าวรอยเตอร์สที่ถูกศาลตัดสินจำคุก 7 ปี ในความผิดฐานครอบครองเอกสารลับทางราชการตามกฎหมายความลับทางการที่ใช้ตั้งแต่ยุคอาณานิคมอังกฤษ จากการได้หลักฐานของทางการที่ระบุเหตุสังหารหมู่ชาวโรฮิงญาในหมู่บ้านอินดินช่วงที่พม่าปฏิบัติการทางทหารกวาดล้างกลุ่มติดอาวุธในรัฐยะไข่แต่ทำให้ชาวโรฮิงญากว่า 7 แสนลี้ภัยครั้งใหญ่ นับเป็นการจำคุกที่สะเทือนต่อเสรีภาพในการเข้าถึงข้อมูลของประชาชนและเสรีภาพสื่อ

โดยผู้จัดกิจกรรมเหล่านี้ ประกอบด้วยนักเรียนมัธยมปลาย และสื่อมวลชน ได้รวมตัวชุมนุมอย่างสันติในนครย่างกุ้ง มีการชูป้ายข้อความไม่ว่า การฆาตกรรมไม่ใช่ความลับของรัฐ” หรือ “เปิดเผยความจริงไม่เป็นอาชญากรรม” และตะโกนเรียกร้องให้ปล่อยตัว 2 นักข่าว ท่ามกลางเจ้าหน้าที่บางส่วนที่เข้ามาสังเกตความเรียบร้อย

ทา ลัน ซอง เตว์ ผู้สื่อข่าวที่ออกมาร่วมการประท้วงกล่าวว่า คำตัดสินที่เกิดขึ้นเป็นการยับยั้งการทำหน้าที่ในการรายงานข่าวในพม่า การสูญเสียเสรีภาพสื่อนั้นหมายถึงการเปลี่ยนผ่านสู่ประชาธิปไตยของเราต้องถดถอย

ด้านนายเทว์ ไข่ โซว์ กล่าวว่า บรรดาเสื้อแจ๊กเก็ตใบหน้า 2 นักข่าวและสติกเกอร์ที่แปะทั่วเมือง มีที่มาความอยุติธรรมต่อคดีที่ตัดสิน 2 นักข่าว เพื่อทำให้เราต้องรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในโลกใบนี้บ้าง เราต้องนักข่าวเพื่อสิ่งนั้น หากไม่มีพวกเขา (2 นักข่าว) เราจะเป็นคนโง่ที่หูหนวกตาบอด

อย่างไรก็ตาม เมื่อสอบถามต่อนายซอว์ เทย์ โฆษกรัฐบาลพม่ากลับไม่ให้ความเห็นต่อเรื่องนี้

ก่อนหน้านี้ นางอองซาน ซูจี มุขมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศพม่าได้กล่าวในเวทีเวิล์ดอีโคโนมิกฟอรั่มที่กรุงฮานอยของเวียตนามเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า คดีจำคุก 2 นักข่าวรอยเตอร์สไม่เกี่ยวกับเสรีภาพในการแสดงความิเห็น แต่ตัดสินตามกฎหมายความลับทาง ไม่จำคุกพวกเขาเพราะว่าเป็นสื่อมวลชน

ทั้งนี้ เมื่อวันศุกร์ที่่ผ่านมา เครือข่ายสื่อ 6 องค์กรของพม่าได้ออกแถลงการณ์ร่วม ออกมาวิจารณ์ความเห็นของซูจีว่าเป็นสิ่งที่น่าผิดหวังอย่างยิ่ง